จุดประกายถามตอบ 27

A : ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาผมก็พยายามไม่เข้าไปแทรกแซงจิต เห็นสภาวะที่เกิดดับอยู่ 3 ครั้ง ที่ชัดเจนมาก คือ เห็นความไม่พอใจขณะที่ตื่นนอนประมาณตีสาม เห็นจิตมันเคลื่อน (คงไม่ชอบที่ตื่นขึ้นมา) ผมก็ไม่ทำอะไร ดูมันเฉยๆ สักพักหนึ่งมันก็ค่อยๆ สงบลง เห็นปิติ ก็นอนดูไปเรื่อยๆ ไม่มีความทุกข์ใดๆ มองเห็นจิตมันทำงานของมันเอง ไม่ใช่เรา สิ่งที่เห็นนี้เป็นไตรลักษณ์ใช่มั้ยครับ

ตอนที่เห็นจิตเคลื่อน ก็เป็นตอนที่เกิดทุกข์ หรือตอนที่จิตมันมีความไม่พอใจ หากเป็นแต่ก่อนก็จะพยายามข่มมัน หรือแทรกแซงจิต ทำให้ไม่เห็นสภาวะตามเป็นจริง

Camouflage : ใช่ครับ เราได้เห็นตามความเป็นจริงครับ

เข้าใจแล้วนะครับ ที่เราชอบแทรกแซงจิต ทำให้มันดี มันเบา มันว่าง มันสบาย ล้วนเป็นการปฏิบัติที่ผิดนะครับ มีแต่อัตตาตลอดเส้นทาง เราจึงไม่เคยได้เห็นความจริงครับ

เห็นแล้วนะครับว่า ความทุกข์นั้นมีคุณค่ามาก มีความทุกข์ และมีความอดทนที่จะเห็นเฉยๆ ได้ให้รางวัลที่งดงามแล้วนะครับ รางวัลนั้นคือ ความจริง

A : สาธุ ขอบพระคุณมากครับอาจารย์

Camouflage : พออดทนได้สักครั้ง เราจะมีตบะบารมี ที่เรียกว่าความเคยชินใหม่ ที่จะไม่แทรกแซงจิต ไม่แก้ไข ไม่ทำให้มันดีอย่างที่เราอยากให้เป็น ไม่คอยไปทำให้หายให้คลายจากทุกข์ เพราะนั่นมันคือ เราที่ไม่อยากทุกข์
เราอยากได้อะไรดีๆ

แล้วเราจะอดทนได้อีก เราจะได้เห็นทุกข์ไปเรื่อยๆ และจะต้องอดทนมากขึ้นๆ เพราะนิพพานอยู่ฟากตาย

ทุกข์ถึงที่สุด จึงจะถึงที่สุดแห่งทุกข์นะครับ

อย่าลืมที่ผมพูดเสมอๆว่า การปฏิบัตินั้น ท่านเว่ยหล่างบอกว่ามีเส้นทางเดียว ไม่มีหรอกว่าเชื่องช้าหรือฉับพลัน
จะเชื่องช้าหรือฉับพลันมันเป็นเรื่องของบุญ บารมีของจิตแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน

แต่ถ้าวิธีปฏิบัตินั้น มีเส้นทางเดียว

ครั้นออกไปจากเส้นทางการเห็นตามความเป็นจริงนี้

มัวแต่ไปทำอย่างอื่น เท่ากับเราได้ตกออกจากเส้นทางนี้ไปเรียบร้อยแล้วครับ

A : สาธุ