จุดประกายถามตอบ 11

Camouflage:

การสังเกต เป็นเรื่องที่ต้องมีตลอดการปฏิบัติครับ

ที่ผมมักใช้คำว่า เราต้องมีโยนิโสมนสิการ คือ มีความแยบคายในการปฏิบัติ หมั่นสังเกต ด้วยตัวเอง

เราถึงจะพึ่งตัวเองได้
ไม่เช่นนั้นเราจะติดครูบาอาจารย์
จนไม่สามารถเติบโตด้วยตัวเองได้

ถ้าเราสังเกตคนในโลก คนที่สู้ชีวิตด้วยตัวเอง จะแข็งแกร่งและลึกซึ้งกว่าคนที่อยู่กับพ่อแม่ตลอดเวลาครับ

การหมั่นสังเกตกายและจิตด้วยตัวเอง เป็นสิ่งที่ผมทำมาตลอดชีวิตการปฏิบัติของผม และเป็นกิริยาสำคัญที่ผมมักจะแนะนำนักปฏิบัติทุกคนเสมอ

เพราะถ้าเราหัดสังเกตด้วยตัวเอง มันเหมือนเราสามารถหลุดอะไรๆมาด้วยตัวเอง เราจะเข้าใจในแต่ละกรณีได้อย่างแจ่มแจ้งครับ มันจะต่างจากการคอยให้ใครมาบอกเรา

มันอาจจะดูไม่ทันใจเรา แต่ถ้าเรายอมช้าอีกนิด แต่เข้าใจได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เราจะไม่ตกหล่ม หวนกลับไปแบบเดิมอีก มันคุ้มเกินคุ้มครับ

เพราะความทุกข์ ประสบการณ์ที่เราถูกตุ๋น มันละเอียดละออ มันลึกซึ้งถึงหัวจิตหัวใจ เราจะรู้หมดว่าเหตุแบบไหน ผลแบบไหน เพราะเราผ่านมาด้วยตัวเองครับ

เพียงแต่อดทน ทำหน้าที่ที่ผมบอกไว้ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมครับ

ไม่ต้องกลัวผิด ไม่ต้องกลัวช้า ไม่ต้องกลัวไม่ก้าวหน้า ทุกคน ทุกดวงจิตมี เวลาของตัวเอง

ถ้าเราดำเนินอยู่บนหลักที่ผมบอก มันจะเข้ามาตรงกลางเอง เหมือนที่หลายๆคนเล่าให้ผมฟัง

ปีก่อนยังมีการกระทำ มีบังคับ มีเพ่ง
แต่ปีนี้ไม่มีแล้ว เป็นธรรมชาติ เป็นเอง

เค้าก็ไม่ได้ไปไหน เพราะเค้าต้องทำงาน ไม่มีโอกาสไปไหนซักเท่าไหร่

แต่เค้าสังเกตตัวเอง ค่อยๆทำหน้าที่อย่างมีวินัย ตามที่ผมบอกแค่นั้น

แถมก็ไม่ได้ถามอะไรผมบ่อยอีกต่างหาก เค้าใช้แค่หลักที่ผมบอก

ฟังคลิป แล้วก็ปฏิบัติตามหลักที่ผมสอน

แล้วธรรมชาติแห่งหน้าที่นั้น
จะขัดเกลา
จะผ่อนคลายการกระทำ
มันจะคลี่คลายเอง

#จำไว้นะครับ #มันจะคลี่คลายเอง

อย่าพยายามเร่งปฏิกิริยา
เพราะการคิดแบบนั้นรังแต่จะทำให้เราจะมีแต่การกระทำ การคอยแก้ไข

สรุปความคือ กลายเป็นเราจะทำ และเลิกทำไม่ได้ครับ

เพราะงั้น ขอให้ทำแค่หน้าที่ แล้วทุกอย่างจะคลี่คลายเองครับ

A: แล้วการสังเกต ต้องทำอย่างไรครับ

Camouflage:

การมีเวลาเรียนรู้ตัวเองจริงๆ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปฏิบัติครับ

แล้วทำหน้าที่ที่ผมบอกนะครับ

การสังเกตอะไรๆที่ว่า มันจะเกิดขึ้นเอง

ขอแค่อยู่ในบริบท สิ่งแวดล้อมที่ผมบอก

มันจะเป็นเองครับ มันหนีไม่พ้นครับ

ขอเพียงสร้างเหตุ คือหน้าที่ที่ผมบอกให้สมบูรณ์ครับ

และจำที่ผมบอกไว้นะครับ เราอาศัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม

แล้วผลอะไรต่างๆมันจะเกิดตามสิ่งแวดล้อมที่ได้ทำไว้ดีแล้ว

แล้วให้มันเป็นเองครับ
มันจะพ้นการกระทำ
มันจะไม่มีการทำอะไรเอง

มันจะสังเกตอะไรๆเอง
เพราะมันอยู่กับเนื้อกับตัว
มันก็อยู่ในกายในใจนี้
ไม่ค่อยออกนอก

พระสูตรเรื่องชาวนาปลูกข้าว

ชาวนาไม่มีหน้าที่ทำให้ข้าวออกรวง

มีหน้าที่ทำเหตุ คือทำสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม แล้วเมล็ดข้าวจะพัฒนา จะค่อยๆเติบโต จนสูงใหญ่ และรวงข้าวจึงออกมาในที่สุด

เฉกเช่นเดียวกับจิตใจ ที่จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่มันปฏิวัติตัวเองสำเร็จ ไปสู่ความบริสุทธิ์หลุดพ้นโดยสมบูรณ์ครับ

ขอให้ทำเหตุ และอดทนนะครับ
ทุกอุปสรรค ทุกการติด มันจะคลี่คลายเอง

และเราจะเรียนรู้มันได้ลึกซึ้งด้วยประสบการณ์ของตัวเองจริงๆครับ

A: สาธุครับ