จุดประกาย ถาม-ตอบ 03

A:
ขอถามเรื่องเดินจงกรมหน่อยครับ

คือปกติเวลาผมเดิน ผมจะแค่รู้สึกถึงอาการที่ขามันเคลื่อน และผมจะเดินความเร็วปกติ เหมือนที่ผมเดินปกติเลย

แต่เพื่อนผมบอกว่าปฏิบัติแบบนี้ผิด

เพื่อนผมบอกว่า เวลาเดิน มันต้องรู้สึกให้ละเอียด เอาจิตไปไว้ที่เท้า

เดินช้าๆๆมากๆ แล้วก็รู้ให้ทั่วทุกอาการตั้งแต่ยก ก้าว ย่าง

 

Camouflage:
เราทำแบบไหน ไม่ผิดธรรมชาติ
ไม่ผิดปกติ ก็ทำแบบนั้นครับ

ถ้าเราลองทำแบบที่เค้าบอก แล้วเราไม่ปกติ ก็น่าจะไม่ไช่ทางของเราละครับ

ลองพิจารณา คำสอน หลวงพ่อเทียนที่ว่า

รู้แล้วผ่านเลย

และ ไปรู้อะไรเข้า ก็จะติดกับสิ่งนั้นทันที

กับ คำสอนที่เพื่อนบอกว่า รู้สึกให้ละเอียด

แบบไหน จะผ่อนคลาย สบาย เป็นธรรมชาติมากกว่ากันครับ ลองดูเองก็จะทราบด้วยตัวเองทันทีครับ

…จิตที่อ่อนโยน เรียกว่า ลหุตา นั้น
…เป็นจิตที่ควรค่าแก่การงาน
…คือการปฏิบัติธรรมครับ

 

A:
โอเคครับ งั้นผมว่าผมเดินแบบปกติของผมน่าใช่ทางของผมมากกกว่า

เดินแบบช้าจัดๆแล้วรู้สึกมันผิดธรรมชาติมาก

 

Camouflage:
ดีครับ

ทางของพระพุทธเจ้า เป็นเส้นทางของการชักชวน

ให้มาลองดูด้วยตัวเองครับ

 

A:
พี่ครับ แล้วมันมีอีกประเด็นนึงที่มันรู้สึกคลางแคลงใจ

สมมุติผมตั้งอธิษฐานจิตว่าอยากปฏิบัติให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย และจะตั้งใจปฏิบัติ ดำรงตน ในวิถีนี้อย่างเต็มที่ที่สุด และดีที่สุด

แต่เพื่อนมันบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก มันทำไม่ได้หรอก มันต้องสั่งสมกันหลายชาติเป็น100เป็นพันชาติ ถ้ามันทำกันได้ง่ายขนาดนั้น ทุกคนก็บรรลุนิพพานกันไปหมดแล้ว

อย่ามโนว่ามันจะทำได้ หรือมันอาจจะได้แต่success rateมันก็ต่ำมากๆ อาจจะ0.00000000001%

แล้วมันก็พูดถึงคำพระพุทธเจ้าว่า คนที่บรรลุธรรมนั้นมีน้อยมากเหมือนเขาสัตว์เทียบกับขนสัตว์

แม้จะเอาจริงกับการภาวนา แต่อย่าไปหวังสูงขนาดนิพพานพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง

อย่างดีที่สุดก็ได้แค่ไปสวรรค์

คือฟังเพื่อนพูดมันก็ดูมีเหตุผลอ่ะพี่
และผมพิจารณาตัวผมเอง ผมก็รู้สึกว่าตัวผมก็ไม่น่าจะดี ไม่น่าจะได้สั่งสมอะไรมาเยอะขนาดนั้น

แต่เห็นพี่มักจะพูดในคลิปเสมอว่าทุกคนทำได้ มันเป็นไปได้

หลวงพ่อเทียนก็มักจะบอกว่ามันไม่ยาก และก็ใช้เวลาไม่นาน

ครูบาอาจารย์หลายองค์ก็บอกว่าอย่าไปวาดฝันว่าการบรรลุพ้นทุกข์ มันเป็นเรื่องยาก จริงๆมันไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น

คืออันนี้พี่พูดให้ทุกคนมีกำลังใจในการปฏิบัติ เป็นการให้กำลังใจเฉยๆ หรือว่าfactจริงๆมันเป็นอย่างนั้น

อยากให้พี่ไขประเด็นนี้ให้กระจ่างให้หน่อย

ถ้าสมมุติว่าsuccess rate มัน0.000000001%จริงๆ ผมอาจจะเลือกหันหลังให้กับการปฏิบัติเลย หรือไม่ก็อาจจะได้ตัดสินใจอุทิศให้การปฏิบัติให้มันเต็มที่ไปเลย บนพื้นฐานของfactที่ว่า success rateมันต่ำมากๆจริงๆ แต่ก็ยังเลือกเดินทางนี้

ผมอยากให้ความเข้าใจ ความคาดหวัง การอธิษฐานจิตของผมbase on factอ่ะพี่

รบกวนพี่ช่วยเคลียประเด็นนี้ให้หน่อยสิครับ

 

Camouflage:
ที่บอกว่าเพื่อนคนนึงบอกว่ายากแสนยาก
กับครูบาอาจารย์ทั้งหลายบอกว่าไม่ยาก

เราจะเชื่อเพื่อนที่ไม่เคยบรรลุธรรม

หรือเชื่อครูบาอาจารย์ที่บรรลุธรรมแล้วดีกว่ากัน

เราต้องพิจารณาดู

ส่วนเราจะเลือกอะไร มันขึ้นอยู่กับเราว่าเราเข้าใจชีวิตเราที่เกิดมาแล้วมากขนาดไหน

เราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแบบไหน

เราพอใจกับชีวิตแบบปัจจุบันนี้แล้ว
หรือเราเห็นว่ามันน่าจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้

เราเข้าใจหรือยังว่า ชีวิตที่อยู่ไปวันๆ วนเวียนเหมือนเดิมมันเป็นยังไง

แล้วชีวิตที่แท้จริง เกิดมาเพื่ออะไร…

…ถ้าเราเข้าใจชีวิตที่แท้จริง
…เราจะไม่หวังบรรลุธรรมอะไร

เราจะขอแค่ #มีชีวิตที่เป็นการปฏิบัติธรรมก็เพียงพอแล้ว

ก็คุ้มค่าแล้วกับการได้มีชีวิตอยู่
โดยไม่ใช่แค่การหายใจทิ้งไปวันๆ

ส่วนการบรรลุธรรมนั้นเป็นผลลัพธ์
ของการใช้ชีวิตบนเส้นทางนี้เฉยๆครับ

เราไม่ต้องหวังจะได้มัน มันจะมาเอง

จริงๆมันไม่ใช่สิ่งที่ได้มา มันเป็นการหลอมรวม
ความพ้นทุกข์จะค่อยๆกลืนกินเราทีละน้อย
จนไม่มี”เรา”เหลือให้กลืนกินอีกต่อไป

ชีวิตของเรา จึงเหลือแต่เพียงความพ้นทุกข์
…ที่ไม่มีเราเป็นผู้พ้นทุกข์

แต่ถ้าเรายังไม่แน่ใจ ไม่พิจารณาชีวิตอย่างลึกซึ้ง
เราอาจจะอยู่ในโลก แล้วปฏิบัติธรรมนิดหน่อย พอให้ชีวิตไม่ทุกข์มาก

นั่นแปลว่าเรายังไม่เห็นว่าโลกนี้มีแต่ทุกข์
โลกนี้เต็มไปด้วยความน่าเบื่อ
โลกนี้เต็มไปด้วยความไร้สาระ
ไม่มีอะไรน่าเอาน่าเป็น

ถ้าเรายังตัดสินใจอะไรไม่ได้ในชีวิต
ยังคลางแคลง
ยังไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหน

ก็มีทางเดียวครับ คือใช้ชีวิตต่อไป จนกว่าเราจะสามารถเข้าใจอะไรได้มากขึ้นในโลก

อย่างที่คุณ Aเคยเล่าให้ผมฟังว่า

ไม่มีตรงไหนเป็นเรื่องจริงเลย

ถ้าเราตระหนักเช่นนั้น เราจะไม่กลับไปทางเดิมแน่ แม้ว่าเรายังไม่แน่ใจว่าเราจะไปถึงจุดหมายในทางเส้นทางใหม่ก็ตามทีครับ

ถ้าเรารู้ว่าทางใช้ชีวิตแบบเดิมๆนั้น
ไม่ใช่แน่ๆ
แล้วเรายังกลับไปอยู่แบบเดิม
เราจะเป็นยังไง

เทียบกับ การที่เราได้เคยลองเดินบนเส้นทางใหม่ แม้ว่าเราไม่แน่ใจว่าเราจะไปสุดมั้ย
แต่ขณะที่เดินบนเส้นทางนี้ เรารู้สึกเป็นยังไง ดีกว่ามั้ย มันใช่กว่ามั้ย

และนั่นเป็นสิ่งที่เราเอง ต้องตอบตัวเองได้ครับ

 

A:
มันก็จริงครับ ให้ผมไปใช้ชีวิตแบบ ประพฤติแบบเดิมๆ เดินวิถีจิตแบบเดิมๆ

ผมรู้ชัดแก่ใจตัวเองแล้วว่ามันไม่work มันสร้างความทุกข์ ผมไม่เอาแล้ว

=====

แฟนเพจสุขกาย สุขใจถาม

Camouflage ตอบ

29 พค 2560