อย่าติดแค่ความรู้สึกตัว

การเห็นความรู้สึก(เห็นใจ)ตามคำสอนหลวงพ่อสมบูรณ์  สิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญของการเข้าถึงธรรม

การเห็นความรู้สึกนี้ เป็นสภาพ สภาวะที่ทุกคนสามารถเห็นได้เลย ไม่ใช่เราต้องฝึกรู้สึกตัวมากๆ แล้วถึงจะมาเห็นความรู้สึกได้

ความเชื่อแบบนั้นไม่ใช่แนวทางคำสอนของหลวงพ่อสมบูรณ์

ดังที่หลายท่านที่เคยไปเจอท่าน ไม่ว่าจะเป็นวัดสนามใน หรือ ไปอยู่ปฏิบัติธรรมนานๆ ที่ถ้ำเขาพระ จ.กระบี่ จะเห็นว่าหลวงพ่อท่านนำปฏิบัติ ด้วยการพาเรานั่งสบายๆ สักพักหนึ่ง แล้วท่านก็ชี้ให้เห็นความรู้สึก ว่ามันปกติ สงบ ระงับแล้ว

นั่นเป็นสภาวะพ้นทุกข์ แล้วท่านมักจะบอกเสมอว่าไม่ให้ลืมสภาพนี้ จะทำอะไรก็เห็นอยู่ (แบบนี้เรียกกำลังเจริญมรรค)

ถ้าเรามัวไปเชื่อว่า เราต้องรู้สึกตัวมากๆก่อน แล้วละเลยการเห็นใจหรือเห็นความรู้สึกไป นั่นเรากำลังพลาดจากมรรค เรากำลังพลาด จากคำสอนที่ว่า เราสามารถนิพพานได้ ที่นี่…เดี๋ยวนี้

ทันทีที่เราหันกลับมาดูความรู้สึก เรากำลังหันกลับมาดูใจ ทันทีที่ความคิดหายไป…ความปกติ หรือความว่างก็เปิดเผยตัวออกมา

เราก็รู้จักมันได้ เข้าใจมันได้ และนั่นหมายถึงว่า เราได้เข้าถึงความพ้นทุกข์ในทันที

ต่อจากนั้น ชีวิตใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น การทำกิจการงานในชีวิตประจำวัน ได้เป็นการดำเนินชีวิตบนพื้นฐานของอริยมรรค หมดสิ้นการแบ่งแยกเวลา ว่าตอนนี้เป็นเวลาปฏิบัติธรรม ตอนนี้เป็นเวลาทางโลก  เพราะชีวิตทั้งชีวิตได้กลายเป็นการปฏิบัติธรรม ได้กลายเป็นมรรคเองเสียแล้ว

และนี่คือหัวใจของการปฏิบัติธรรม

เรามีหน้าที่จะพาจิตใจให้รู้จักสิ่งๆนี้ เช่นเดียวกับการที่หลวงพ่อสมบูรณ์พาเรารู้จักสิ่งๆนี้ ด้วยการชี้ให้ดู

พอเห็นได้ ก็อาศัยความเคลื่อนไหวทางกาย ความรู้สึกตัว ช่วยประคับประคอง ไม่ให้จิตหลงไปฟุ้งซ่าน จนกลายเป็นเมฆหมอกปิดบังการเห็นใจ หรือเห็นความปกติ หรือ เห็นความรู้สึก หรือเห็นความว่าง นี้เอาไว้

จะเห็นว่าความรู้สึกตัวนั้น เป็นเพียงกรรมฐาน เป็นเพียงเครื่องอยู่ เพื่อให้เราได้เข้าถึงใจ ได้รู้จักใจ

ดังที่หลวงปู่มั่นท่านว่า

เห็นใจ คือเห็นธรรม
รู้ใจ คือรู้ธรรม
ถึงใจ คือถึงพระนิพพาน

ดังนั้น

อย่าติดแค่ความรู้สึกตัว

จงไปให้ถึงใจ …ที่ถึงได้ทันที

Camouflage