307.ท่านเลิกความเชื่อทั้งหมด

แท้จริงเรานักปฏิบัติธรรม สนใจแต่ความหมายจากการตัดสินและให้คุณค่าสิ่งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น มากกว่าประสบการณ์ตรงต่อสิ่งนั้นๆ ในขณะนี้ว่ามันเป็นยังไง

เราสนใจแต่คุณค่าและความหมายของสิ่งที่เรามีประสบการณ์อยู่ ว่าสิ่งนั้นมันดีหรือไม่ดี ถ้ามันดี เราจะเอา ถ้ามันไม่ดี เราจะไม่เอา เราสนใจแต่เรื่องแบบนั้น

และนั่นหมายความว่า เราไม่เคยมีชีวิตที่เป็นปัจจุบันเลย

เราสนใจแต่เรื่องราว เนื้อหาของประสบการณ์
เราไม่สนใจแค่ประสบการณ์ ที่ไม่มีเรื่องราว

พระพุทธเจ้าท่านถึงบอกว่า ชีวิตหรือคำสอนของท่านนั้น เป็นแค่ประสบการณ์ ไม่ใช่หลักการ

แต่ก็เหมือนเดิม เราฟังไม่รู้เรื่อง เราจึงชอบหลักการ เราชอบหลักธรรม

ก่อนหน้าอริยสัจ 4 หัวใจของการมีชีวิตจริงๆ นั้น เรามีหรือยัง?

เพราะถ้าเราเอาหลักอริยสัจ 4 ไปทำ นั่นคือความเชื่อเหมือนเดิม

ชีวิตที่แท้จริงนั้น…จริง แต่ไม่จริง

ชีวิตที่แท้จริงนั้น…จริง แต่เหมือนฝัน

ถ้าเราคิดถึงอดีตที่เคยผ่านมาในชีวิตของเรา…จริงไหม?

ทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง เหมือนฝันไหม?

มันผ่านไปแบบ ไม่มีอะไร ผมเปรียบเปรยเฉยๆ

แต่ในความเป็นจริง มันคือชีวิตที่ไม่มีความยึดติดกับอะไร ชีวิตจึงเป็นจริงแต่เหมือนฝัน ไม่มีความจริงจังกับอะไรทั้งนั้น

เป็นแค่ประสบการณ์ ที่มันก็ผ่านไป ไม่มีใครเก็บมันเอาไว้

เหมือนที่เราเคยได้ยินคำว่า ไม่มีอะไรน่าเอา น่าเป็น แต่มันอยู่ใน Sense ที่รู้สึกว่า หยิบอะไรก็ทุกข์ ยึดอะไรก็ทุกข์ อะไรๆ ก็ทุกข์

แต่ผมไม่ได้หมายถึง Sense แบบนั้น

มันเป็น Sense ของชีวิตที่เบาสบายมากกว่า

เป็น Sense ของชีวิตที่เป็นปัจจุบันอย่างแท้จริง

และนี่คือความงามของชีวิต

Camouflage
24-07-2565

ฟังธรรม : https://youtu.be/XGKBUC09wfM

ดาวน์โหลด mp3 : https://mcdn.podbean.com/mf/download/7dettr/307.mp3