358.อิสรภาพในการมีชีวิต

 

การปฏิบัติธรรมจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อคนเรามีความสามารถจะมีชีวิตจริง ๆ ได้

และความสามารถจะมีชีวิตจริง ๆ ได้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราแจ่มแจ้งความครอบงำทั้งหมดที่มีอยู่ในชีวิตของเรานี้เอง

และความสามารถจะแจ่มแจ้งความครอบงำทั้งหมดที่มีในชีวิตของเรานี้เอง นั่นคือ การที่คนคนนึงรู้จักตัวเอง

การรู้จักตัวเองจึงไม่ตกอยู่ภายใต้จิตใจของมนุษย์คนหนึ่ง ที่ตัดสินตัวเองด้วยคำพูดบางอย่าง ความหมายบางอย่าง และมีนัยยะซ่อนเร้น ที่อยากจะดีกว่านี้ซ่อนอยู่

การรู้จักตัวเอง ไม่ใช่ว่ามันดี มันมีเหตุผล มันควรจะทำ…ไม่ใช่เรื่องแบบนั้น

สำหรับผม การรู้จักตัวเอง ไม่ใช่วิธีการ ไม่ใช่สิ่งที่ใครสักคนบอกผมว่าควรจะทำ แต่ผมรู้จากชีวิตของผมเลยว่า ชีวิตมนุษย์คนหนึ่งจะต้องมีชีวิตจริง ๆ แค่นั้น

การจะมีชีวิตจริง ๆ แค่นั้น ไม่ใช่การที่ผมจะกลายเป็นอะไร แต่เป็นแค่ความรู้สึกว่า ผมมีอิสรภาพในการมีชีวิต ไม่ใช่อิสรภาพที่ผมจะไปทำอะไรก็ได้

แต่เป็นชีวิตที่พ้นจากความครอบงำทั้งหมดที่สังคม โลกมนุษย์นี้ ให้กับเราตั้งแต่เด็กจนโต

และความที่ชีวิตสามารถมีอิสรภาพแบบที่ผมพูดได้ นั่นคือ “ชีวิตมีอิสรภาพ ไม่ใช่ผมอิสรภาพ” นั่นคือสัจธรรมสูงสุดของชีวิตนี้

อิสรภาพนั่นเอง คือตัวแทนของนิพพาน สิ่งที่เราอยากจะไปถึง สิ่งที่เราถวิลหา และมองว่ามันเป็นยังไง ให้ความหมายมันว่าเป็นยังไง ในเงื่อนไขต่าง ๆ นานา เช่น ไม่มีตัวตน ไม่มีกิเลส หรืออะไรก็ตามที่เราให้ความหมายกับมันว่าบริสุทธิ์หรืออะไรก็ว่าไป สิ่งที่เราคิด ไม่ใช่สิ่งนั้น

ความว่าง หรือนิพพาน คือ สิ่งที่โอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่าง ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระ

นั่นหมายความว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในจักรวาลนี้ ไม่มีใครสักคนให้เงื่อนไขกับมัน ไม่มีใครสักคนควบคุมมัน ไม่มีใครสักคนตัดสินมัน

มันมีอิสรภาพที่จะก่อเกิด กำเนิด ตาย และแปรเปลี่ยน ไปได้อย่างหลากหลาย อย่างที่ไร้ข้อจำกัด และนั่นคืออำนาจของนิพพาน

อิสรภาพสูงสุดของชีวิต จึงเป็นตัวสะท้อนนิพพาน

และนั่นคือความหมายที่ผมบอกว่า ทำไมผมถึงสอนให้ทุกคนแค่รู้จักตัวเอง

เรานึกว่าการจะไปถึงนิพพาน เราต้องปฏิบัติธรรมในหลากหลายรูปแบบที่เราเคยเรียนมา ไม่ว่าสายไหน นิกายไหน

แต่มันแอบซ่อนความที่เราจะเป็น เราจะเอาอะไรบางอย่าง การแอบตัดสินสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซ่อนอยู่ตลอดเวลา เราต้องเห็นแบบนั้น

Camouflage
06-04-2567

ฟังธรรม : https://youtu.be/fV-YFA0yRWY