309.ระยะทาง เวลา และความทุกข์

เราไม่เคยเห็นว่า ชีวิตของเรานั้น พยายามปลอมตัวเป็นใครสักคนหนึ่งที่ดีกว่าตอนนี้

เราพยายามปลอมตัว ให้เหมือนกับอุดมคติบางอย่าง ที่เราอยากจะเป็น ที่เราอยากจะไปถึง

แล้วละเลยความเป็นจริงขณะนี้

เราต้องการจะมี สิ่งที่เราเชื่อว่าเราไม่มี

ถ้าเรายังคงมีเป้าหมาย อุดมคติบางอย่าง ที่หลงเหลืออยู่ในหัวใจของเรา ชีวิตของเรานั้น…โดยอัตโนมัติเลย มันจะละเลยขณะนี้

ความเป็นขณะนี้ การมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ หรือการเป็นปัจจุบันอย่างแท้จริงนั้น ไม่สามารถที่จะใช้ทฤษฎีหรือความจำได้ว่า อาจารย์บอกว่าให้อยู่กับปัจจุบัน แล้วมันจะเป็นปัจจุบัน

เมื่อความคิดกําลังบอกว่า “ต้องอยู่กับปัจจุบัน” ต้องอยู่กับปัจจุบันนั้นเป็นอนาคตแล้ว เป็นเป้าหมาย เป็นอุดมคติ

และมันมีระยะทางระหว่างเราในขณะนี้ที่ไม่มีคำพูดใดๆ เลยหรือความเชื่อใดๆ เลยครอบงำอยู่ กับความคิดอีกอันหนึ่งที่เกิดขึ้นที่บอกเราว่า เราต้องอยู่กับปัจจุบัน

ระยะทางระหว่างนั้น การไปถึงที่นั่น นั่นคือเวลา และนั่นไม่ใช่ปัจจุบัน

ถ้าเราพูดถึงคำว่าปฏิบัติธรรม เราสามารถที่จะสรุปรวบยอดง่ายๆ ได้เพียงแค่ว่า เรามีความสามารถที่จะเป็นอยู่กับขณะนี้อย่างเต็มเปี่ยม เต็มอิ่มกับมัน

และสิ่งที่ถูกแจกแจงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสติ สมาธิ หรือปัญญา ศีล อะไรก็ตามที่ถูกแจกแจงออกไป มันอยู่ในนี้

มันอยู่กับชีวิตที่เป็นปัจจุบันอย่างแท้จริง

มันไม่ใช่เรื่องของการที่ใครสักคนหนึ่ง อ่าน ฟัง รับคำสอนไป รับเนื้อหาที่ถูกแจกแจงออกจากชีวิตที่เป็นปัจจุบันอย่างแท้จริง ด้วยคำพูดต่างๆ มากมาย กลายเป็นคุณสมบัติหลายอย่างที่เราได้ยิน ได้ฟัง และเราก็มองว่า เห็นว่า หรือเห็นด้วยว่า เราจะต้องทำแบบนั้น

ให้พวกเราคิดดูว่า การรับสิ่งที่ถูกแจกแจงออกจากปัจจุบันนั้น แล้วเอาไปคิดว่ามันคืออะไร แล้วเอาไปทำ นั่นคือมีอัตตาตัวหนึ่งกำลังสร้างอุดมคติบางอย่างที่จะต้องไปถึง และอัตตาตัวนั้นก็มีระยะห่างระหว่างอุดมคติที่ไปถึงกับตัวมันเอง และนั่นคือกาลเวลา

และเมื่อมีระยะทางและการเวลา จะต้องมีความทุกข์

กับผมบอกว่า ใช้ชีวิตอย่างเป็นปัจจุบันอย่างแท้จริง ขณะนี้ ขณะที่ไม่มีอะไรครอบงำชีวิตนี้

ไม่หลงเหลือความเชื่อใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับถูกผิด ดีชั่ว

ไม่หลงเหลือไอเดียเกี่ยวกับว่านี่เป็นสติไหม นี่เป็นสมาธิหรือยัง แล้วเราจะทำยังไงให้มีปัญญา

ไม่มีสิ่งเหล่านี้และสิ่งอื่นๆ ที่เป็นเรื่องทำนองนี้ หลงเหลืออยู่ในชีวิตจิตใจเลย

และมีชีวิตที่เป็นปัจจุบันอย่างแท้จริง

แล้วค้นพบด้วยตัวเองว่าสิ่งต่างๆ ที่อัตตารับมา และอยากจะไปทำนั้น มันอยู่ที่นี่อยู่แล้วใช่ไหม

ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นความเป็นปกติหรือผิดปกติ เป็นโพธิหรือกิเลส สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย คือแก่นของชีวิต

และแก่นของชีวิตคือความเป็นอยู่กับสิ่งเหล่านั้น อย่างสมบูรณ์ที่สุด

ความเป็นอยู่นี้เป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

มนุษย์เราเกิดมาในโลกที่มีแต่ความแบ่งแยก การตัดสินให้คุณค่า การเลือกข้าง การจะไปอยู่ในที่ที่ดี อุดมคติบางอย่างที่เป็นเป้าหมายที่ดี เป้าหมายสูงสุดในชีวิต

เพราะฉะนั้น เราอยู่ในโลกที่มีความแบ่งแยกสูงสุด ในเรื่องของของคู่ ดี ไม่ดี

และเราลืมว่าการเกิดมามีชีวิตนั้น เป็นแค่ความสามารถในการเป็นอยู่กับขณะนี้ ไม่ว่ามันจะคืออะไรก็ตามอย่างสมบูรณ์ที่สุด

เราไปหลงอยู่ในโลกแห่งการแบ่งแยก เราหลงอยู่ที่นั่น เราหลงอยู่ในนั้น

แม้กระทั่งเราเข้ามาในศาสนา เราก็ยังหลงอยู่ในนั้น

คนคนนึงที่มีชีวิตขึ้นมาแล้ว เกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อเข้ามาในแวดวงการปฏิบัติธรรม เราก็คิดว่าเราจะต้องปฏิบัติธรรม ต้องทำนี่ ต้องทำนั่น ต้องเจริญขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งผมพูดหลายครั้งแล้วว่า มันเหมือนเราอยู่ในโลก เรียนหนังสือ ทำงาน ประสบความสำเร็จไปเรื่อยๆ นั่นคือโครงสร้างเดียวกัน แค่เปลี่ยนกิจกรรมทำเฉยๆ แค่นั้น

เราไม่เข้าใจว่าการปฏิบัติธรรมนั้น เป็นเรื่องอีกเรื่องนึงเลยที่ไม่ใช่แบบที่เราเข้าใจกันอยู่ในทุกวันนี้

มันเป็นแค่ความสามารถในการเป็นอยู่กับขณะนี้อย่างสมบูรณ์ได้ไหม

และไม่ใช่เรื่องที่จะต้องฝึก

เป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้เลยทันที

ถ้าเรานั่งเฉยๆ เราเป็นอยู่กับขณะนี้ได้เลยทันที นั่นแปลว่าไม่ต้องฝึก ถูกไหม?

มันเป็นเรื่องแค่ เป็นได้เลย กับไม่เป็น แค่นั้น

มันเป็นเรื่องของทันที ฉับพลัน

เราต้องเข้าใจเรื่องนี้ให้ได้ เพราะถ้าการปฏิบัติธรรมไม่ใช่เรื่องของฉับพลัน ไม่ใช่เรื่องของทันที แต่อาศัยการฝึก การฝึกใน Sense ของอุดมคติบางอย่างที่เราจะไปให้ถึง ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว

การฝึกเหล่านั้น คือ ระยะทางของอัตตา กับเป้าหมาย และสร้างกาลเวลาขึ้น

และทั้งหมดนั้นคือทุกข์

และนักปฏิบัติธรรมเราทำเรื่องแบบนั้นทั้งชีวิตที่เราเข้ามาปฏิบัติธรรม

เราไม่ได้ปฏิบัติธรรม เราแค่หาทุกข์ใส่ตัวเฉยๆ

เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมนั้นคือฉับพลัน ขณะนี้

ไม่ใช่เรื่องของการพัฒนาหรือการฝึกอะไร

Camouflage
06-08-2565

 

ฟังธรรม : https://youtu.be/RTmkQ0Shrdw

ดาวน์โหลด mp3 : https://mcdn.podbean.com/mf/download/b8kbp7/309.mp3