302.ก่อนที่การตื่นรู้จะเกิดขึ้นได้จริง

 

สันติภาพไม่ว่าจะในครอบครัว ในสังคม หรือในโลกนี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นจากการที่คนๆ นึง ยึดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นถูก

แต่เกิดขึ้นจากการที่คนๆ นึง

…เห็นความเป็นทั้งหมดของตัวเอง
…เห็นความยึดทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวเอง

และการเห็นเรื่องเหล่านั้น…

…จะต้องมีความใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง
ต่อทุกขณะของชีวิต

…จะต้องมีความซื่อตรงต่อทุกขณะของชีวิต

…จะต้องไม่หลงกลต่อการตัดสินในเชิงของคู่ทั้งหลาย ที่แทรกเข้ามาในขณะนั้นๆ

ให้ทุกอย่างนั้นเปิดออก แบออก

เปิดทุกอย่างออก อย่างเปิดเผย อย่างแท้จริง และเห็นมันทั้งกระดาน

เห็นมันทั้งกระดานอย่างแท้จริง โดยไม่มีไอเดียเกี่ยวกับความรู้ หลักการ หรือตัวอย่างในอดีต ที่จะเข้ามาทำให้การเห็นขณะนี้ของเราบิดเบือนไปจากความจริง

เราต้องเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามจะบอกว่า การเห็นตัวเองของเรานั้น พร้อมจะถูกบิดเบือนได้อย่างง่ายดาย

ถ้าเราปล่อยให้ความคิด ทฤษฎี ไอเดีย ประสบการณ์ในอดีตของใครสักคนหนึ่ง ที่เราเชื่อว่าเขาเป็นคนที่ถูกต้อง หรือน่าเชื่อถือ แทรกแซงเข้ามาในการเห็นชีวิตนี้ของเรา

ด้วยหัวใจอันใสซื่อนั้น คือ การเห็นชีวิตนี้ด้วยความเป็นกลางอย่างยิ่ง

แต่ด้วยหัวใจที่ไม่ใสซื่อ เมื่อเราถามคนในโลก ถามว่าเขารู้ไหม อะไรเกิดขึ้นรู้ไหม? เขาบอก เขาก็รู้ แต่ความรู้นั้นอยู่ภายใต้อัตตา

รู้ที่มีความครอบงำ ความเคลือบแฝง ทิฏฐิ หลักการ ความเชื่อของตัวเอง

และเมื่อการเรียนรู้ของบุคคลประเภทนี้เกิดขึ้น ผลลัพธ์คือความขัดแย้ง ที่ขัดแย้งกับคนอื่น และในหลายครั้งจะขัดแย้งกับตัวเอง

เพราะฉะนั้น ความสำคัญก่อนหน้าที่จะตื่นรู้ ก่อนหน้านั้น เรามีหัวใจอันใสซื่อที่ผมบอกนี้แล้วหรือยัง?

คือ หัวใจที่มีอิสรภาพ จากความรู้ในอดีตทั้งหมด

หัวใจที่มีอิสรภาพ จากหลักการ ความเชื่อ ทิฏฐิ มานะ สิ่งที่ตัวเองยึดถือเอาไว้ อิสรภาพจากสิ่งเหล่านั้นแล้วหรือยัง

ถ้ายังไม่มีหัวใจที่ผมว่านี้ การตื่นรู้ของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นเพียงการตื่นรู้ที่อยู่ภายใต้อัตตาตัวตนของตัวเอง

ซึ่งไม่เพียงไม่มีประโยชน์อะไร แต่ยังทำลายโลกนี้ด้วย

Camouflage
25-06-2565

ฟังธรรม : https://youtu.be/Gzp6x_XyC0s

ดาวน์โหลด mp3 : https://mcdn.podbean.com/mf/download/cwd7di/302.mp3