297.โลกะวิทู ผู้รู้แจ้งโลก

ทันทีที่เราเชื่อ ความจริงก็ได้หายไป

การค้นหาว่าอะไรคือความจริง…ก็ได้หยุดชะงักลง

เราไม่เคยค้นหาความจริงของการกระทำบางสิ่งบางอย่าง ว่ามันส่งผลอะไรได้บ้าง มันส่งผลดีอย่างเดียวไหม

เมื่อเราเชื่อและคล้อยตาม โดยไม่มีการใช้ปัญญาที่จะไตร่ตรองพิจารณา ว่าสิ่งที่กำลังชี้นำชีวิตนี้ ความจริงของมันคืออะไรกันแน่

ชีวิตที่มีทิศทางไปในทิศทางสักอย่างหนึ่ง ท้ายที่สุดมันเป็นยังไงกันแน่ จบสิ้นที่ตรงไหน

เราไม่เคยเข้าใจสิ่งเหล่านี้ เราไม่เคยเข้าใจสิ่งที่คอยบงการชีวิตนี้อยู่ ว่ามันคืออะไรกันแน่

เราใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความเชื่อ ภายใต้เหตุผล ภายใต้ความคิดในเชิงของคู่ทั้งหลาย…ถูกผิด…ดีชั่ว

เรารู้เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตนั้น แต่เราไม่รู้ว่าเราอยู่ข้างในนั้น

เรายังไม่เคยเห็นโครงสร้างของความขับดันทั้งหมดของชีวิตนี้ ว่ามันถูกขับดันด้วยอะไร

เราเลิกค้นหา ก็เพราะว่าชีวิตของเรานั้นมีหลักการอันหนึ่งไว้แล้ว เราเชื่อหลักการอันหนึ่งไว้แล้ว

เราเข้าใจไหมว่า เมื่อเราเชื่อหลักการอันหนึ่งไว้แล้ว มันส่งผลอัตโนมัติทันทีว่าเราจะหยุดค้นหาความจริง มันเป็นธรรมชาติของความเชื่อ

เช่น เราเชื่อว่ากิเลสนี้เป็นสิ่งเลวร้าย เราถูกสอนมาแบบนั้น ในมุมมองของของคู่…แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งเลวร้าย แต่ทันทีที่เราเชื่อ ลงความเห็นว่ามันคือสิ่งเลวร้าย เราจะผลักไสมัน เราจะพยายามไล่มัน เราจะพยายามไม่มีมัน

การกระทำเช่นนั้นคือ การผลักไสธรรมะ

กิเลสคือธรรมะ

เราเกลียดมันเท่าไหร่ เรายิ่งห่างไกลจากธรรมะเท่านั้น นี่คือความหมายที่ว่ากิเลสกับพุทธะนั้นคือสิ่งเดียวกัน

ถ้าเราไม่อยากมีกิเลส ไม่ชอบกิเลส เราจะไม่มีวันเจอพุทธะ

ผมเคยถามคนดีๆ หลายคนที่เป็นนักปฏิบัติธรรม เมื่อผมเอ่ยถึงกิเลสอะไรขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง ในใจของเขารังเกียจทันที มีความรู้สึกในทางลบทันที

นี่คือหัวใจที่สำคัญ ที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย แต่ถ้าเราไม่มีหัวใจที่เป็นกลางอันนี้ เราปฏิบัติธรรมไม่ได้

พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ความจริง เป็นโลกะวิทู ผู้รู้แจ้งโลก

คำว่าโลกนี้คืออะไร? โลกนี้ประกอบด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกเรียกว่าดีหรือไม่ดี

ถ้าเรารังเกียจกิเลส พยายามที่จะละมัน พยายามที่จะไม่มีมันให้เร็วที่สุด เราจะเป็นโลกะวิทูได้ไหม?

เพราะฉะนั้น หัวใจของชาวพุทธ นักปฏิบัติธรรม เรามีความเข้มแข็งและแข็งแกร่งมากในการแบ่งแยกระหว่างดีกับไม่ดี เราไม่เคยเป็นกลางกับมันเลย

ทันทีที่ชีวิตนั้นแบ่งแยกระหว่างดีกับไม่ดีอย่างเข้มแข็ง แข็งแกร่ง โดยธรรมชาติของความเชื่อแบบนั้น จะผลักให้เรามายืนอยู่ฝั่งที่ดี และประณามฝั่งที่ไม่ดี

จริงๆ แล้วการปฏิบัติธรรมของเราชาวพุทธนั้น เป็นแค่การเลือกข้าง เราเลือกข้างที่เราเชื่อเฉยๆ

และเมื่อเราเลือกข้าง แบ่งข้าง การค้นหาความจริงทั้งหมดก็จะจบสิ้นลงไป

ความเป็นโลกะวิทู ผู้รู้แจ้งโลกนี้ ก็หยุดชะงักลง

ผู้รู้แจ้งโลกคืออะไร? คือความแจ่มแจ้งในอริยสัจ 4

มาถึงตอนนี้ เราทุกคนที่แบ่งข้างมาตลอดชีวิตจะทำยังไงต่อหัวใจแห่งการแบ่งข้างนั้น มันเป็นนิสัยของเราไปแล้ว

นี่คือเรื่องใหญ่ ซึ่งใหญ่กว่าการที่คนคนนึงจะปฏิบัติธรรมยังไงดี ต้องทำอะไรบ้าง

เรายังทำอะไรไม่ได้ ถ้าเรายังไม่ได้หัวใจอันนั้นมา

Camouflage
15-05-2565

ฟังธรรม : https://youtu.be/UPUJjABlcvU

ดาวน์โหลด mp3: https://mcdn.podbean.com/mf/download/t9p2nu/297.mp3