282.เมื่ออริยมรรคกลายเป็นความเชื่อ



วิถีการฝึกจิตให้มีสติและสมาธินั้นเป็นกลิ่นอาย เป็นบรรยากาศที่มีบุคคลมากมาย ลัทธิต่างๆ ได้ทำกันมาตั้งแต่ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นมา

คนเหล่านั้นฝึกกายและฝึกจิตอย่างหนัก จนได้ฌาน ได้อรูปฌาน ได้สมาธิที่ลึกล้ำมากมาย แต่ไม่พ้นทุกข์ เพราะอะไร

แท้จริงพระพุทธเจ้าท่านบอกว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ต้องมาจากสัมมาทิฏฐิโลกุตระ มันต้องมาจากความไม่มีเรา ปราศจากซึ่งเจตนาใดๆ ทั้งสิ้น

ความปราศจากซึ่งเจตนาใดๆ ทั้งสิ้น นั่นหมายความว่าเราต้องลืมทั้งหมดที่เป็นความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม แล้วเหลือแค่ชีวิตนี้จริงๆ

พระพุทธเจ้าท่านประทานคำสอนที่สำคัญมากที่เราชาวพุทธไม่เคยเข้าใจเลยคือ อริยมรรคมีองค์ 8

ผมเคยบอกพวกเราหลายครั้ง ให้เราสังเกตว่า ทำไมสัมมาสติและสัมมาสมาธิ มันไปอยู่ข้อ 7 กับข้อ 8

ถ้าที่เราฝึกกันทุกวันนี้ ที่เรายกสัมมาสติและสัมมาสมาธิมาเป็นเรื่องสำคัญของการปฏิบัติธรรมของเราทุกคนในประเทศนี้ตอนนี้…

ทำไมมันไม่อยู่ข้อ 1 กับข้อ 2 ทำไมพระพุทธเจ้าไม่เอามันไว้ตั้งแต่ข้อแรกเลย? เพราะนั่นคือเส้นทางของดาบส เส้นทางของฤาษี เส้นทางก่อนที่ท่านจะค้นพบความเป็นจริงว่าอะไรคือทางพ้นทุกข์

ท่านใช้คำว่า “สัมมาสติ” และ “สัมมาสมาธิ” ท่านมีคำว่าสัมมาขึ้นมา เพื่อให้แตกต่างกับสติและสมาธิ

สัมมาสติและสัมมาสมาธิ เกิดขึ้นจากสัมมาทิฏฐิโลกุตระ เกิดขึ้นจากความไม่มีเรา และความไม่มีเรานั้นคืออะไร?

ความไม่มีเรานั้นคือ “จิตคือพุทธะ” คือ “ธาตุรู้” สัมมาสติและสัมมาสมาธิเป็นอวตารหนึ่ง เป็นปางหนึ่งของธาตุรู้ ไม่ใช่เราไปเพิ่มสติและสมาธิด้วยตัวเราเอง

เราเคยเห็นสภาพตัวเองที่ปฏิบัติต่ออริยมรรคมีองค์ 8 มั้ยว่าเป็นยังไง?

เราเอาทีละข้อมาอ่าน และเราแปลมัน แล้วมันกลายเป็นความเชื่อ กลายเป็นเป้าหมาย และกลายเป็นอุดมคติอันนึงในชีวิตของเรา แล้วเราทำทีละข้อ เราจะทำทีละข้อจนกว่าแต่ละข้อนั้นจะสมบูรณ์

เราแปลสัมมาสติ ด้วยสติปัฏฐาน 4 และเรามีเป้าหมายว่า จะต้องรู้ให้เร็ว รู้ให้ไว รู้ทุกขณะ ไม่หลง นี่คือเป้าหมายของเราใช่ไหม?

เราเปลี่ยนมรรคมีองค์ 8 ที่พระพุทธเจ้าประทานให้เรา เราเปลี่ยนมันจากชีวิตจริงๆ ให้กลายเป็นความเชื่อ กลายเป็นเป้าหมาย กลายเป็นอุดมคติอันหนึ่ง ที่เราคนนี้จะไปให้ถึง

แล้วเมื่อมีเราคนนี้จะไปให้ถึง นั่นคือเราไม่เข้าใจว่าสัมมาทิฏฐิโลกุตระคืออะไร นั่นคือที่ผมสอนมาตลอดว่า เรายังไม่เข้าใจเลยว่าข้อแรกที่พระพุทธเจ้าสอนคืออะไร แล้วเราก็ขยันปฏิบัติธรรม

และเมื่อเราไม่เข้าใจว่าความไม่มีเรา หรือโลกนี้ว่างจะความเป็นสัตว์ตัวตนบุคคลเราเขานั้นเป็นยังไง…อย่างน้อยทางความคิดก็ได้ เมื่อเราไม่เข้าใจสิ่งๆนั้น เราจะทำ…จะทำทุกอย่าง และเมื่อเราพยายามทำทุกอย่าง ชีวิตแห่งอริยมรรคมีองค์ 8 ที่แท้จริงก็ได้หายไป

ชีวิตแห่งอริยมรรคมีองค์ 8 นั้นคือ การใช้ชีวิต ที่มีชีวิตและธาตุรู้เป็นผู้นำทาง แต่เมื่อเราเปลี่ยนอริยมรรคมีองค์ 8 เป็นความเชื่อ ชีวิตจะถูกอวิชชานำทาง คือเราเอง

และเรานี่แหละจะเป็นคนปฏิบัติตามทุกคำสอน ที่พระพุทธเจ้าได้สอนเอาไว้

เราอยากเห็นกายและจิตนี้ตามความเป็นจริง แต่เวลาจิตฟุ้งซ่าน เรารู้สึกว่ามันไม่ถูก เรารีบมานั่งสมาธิ

เราเห็นกระบวนการของการตัดสินของเราต่อจิตนี้ไหม และเราแทรกแซงมันตลอดเวลา เราจัดการมันตลอดเวลา นี่คือความบ้องตื้นของนักปฏิบัติธรรม

เราจะมานั่งเฉยๆ หลังจากความฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะว่าความฟุ้งซ่านนั้นเป็นความผิด หรือความถูก หรือความไม่ดี แต่คนคนหนึ่งออกจากมันไม่ได้ ตามเข้าไปในมันตลอดเวลา และเป็นเพราะเราตามเข้าไปในมันตลอดเวลา ความฟุ้งซ่านนั้นถึงยังคงดำรงอยู่ได้อย่างยาวนาน

เราเห็นกระบวนการทั้งหมดนี้ไหม เราเข้าใจกระบวนการทั้งหมดนี้ไหม

เมื่อเราเข้าใจกระบวนการทั้งหมดนี้ เราจะเข้าใจว่าถึงเวลาที่จะต้องหยุดตามมัน ก็คือมานั่งเฉยๆ หรือเราจะเรียกชื่อว่านั่งสมาธิก็ได้ แต่มันไม่ใช่การมานั่งเพราะว่ามันไม่ดี

แต่เราหยุด เพราะเราเข้าใจกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้น ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และส่งผลอะไร

นี่คือตัวอย่างง่ายๆ ที่เราจะต้องรู้ว่า ทำไมเราถึงทำอะไรสักอย่างนึง ซึ่งมันไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อว่ามันถูกบอก ว่ามันผิด มันไม่ดี มันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น มันไม่ถูก

แต่มันต้องเกิดขึ้นจาก ความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งกับแต่ละขณะที่กำลังเกิดขึ้น ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และมีเรากำลังรู้สึกอะไรกับมัน และกระบวนการทั้งหมดของชีวิตนั้นจะเปิดเผยทางออกออกมาเอง แต่เราไม่เข้าใจ เราใช้เชื่อ!

เราแค่จะทำให้ไม่ดีเป็นดีแค่นั้น

ถ้าเราเข้าใจการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง เรามีความกระจ่างแจ้งต่อกระบวนการความเป็นไปในแต่ละขณะของชีวิตนี้อย่างแท้จริง จะไม่มีคำว่าการปฏิบัติธรรม จะไม่มีคำว่าอุบาย จะไม่มีอะไรทั้งนั้น

เมื่อมันเหลือแค่ของจริงๆ ล้วนๆ แล้วของปลอมจะมีประโยชน์อะไรอีก

มันคือส่วนเกิน มันคือภาระ

มันคือสิ่งที่ทำให้เราหลงผิดจากความจริงต่างหาก

มันคือสิ่งที่ทำให้เราสับสน

มันคือสิ่งที่ทำให้เราเข้าไปสู่การตัดสินและแบ่งแยกสิ่งที่เป็นอยู่จริงในขณะนี้

Camouflage
13-11-2564

ฟังธรรม :
https://youtu.be/R-GymAK3tY4

ดาวน์โหลด mp3 :
https://mcdn.podbean.com/mf/download/e9yk2v/282.mp3

www.camouflagetalk.com