165.วิถีชีวิตใหม่ : 11 เคยเห็นทุกข์มั้ย

ตอนที่ 1 เรามีเพียงกิริยาเดียวคือ รู้

กลับไปที่ตัวเอง นั่งอยู่รู้ไหม ร่างกายจะขยับเขยื้อนอยู่รู้ไหม การปฏิบัติธรรมเราไม่ต้องหาอะไรทำ ร่างกายกำลังเป็นยังไงอยู่ก็รู้ นั่งอยู่ก็รู้ พอเราเริ่มรู้ร่างกายเป็นยังไงอยู่สักพักหนึ่งเราก็จะเห็นจิตใจได้ เราก็จะเห็นได้ว่าจิตใจไม่มีอะไร ปกติ พอการเห็นมันเริ่มต้นขึ้น มันจะเป็นโมเมนตัมให้เราสามารถเห็นได้ในขณะถัดไป

เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมเริ่มต้นขึ้นเมื่อเราตื่นขึ้นมา เห็นร่างกายนี้อย่างที่ร่างกายเป็น เห็นจิตใจนี้อย่างที่จิตใจเป็น เราไม่ต้องตั้งค่าตั้งทางอะไรเลย การเห็นอย่างนี้เรียกว่าเห็นด้วยความรู้สึก เห็นได้ทันที

เมื่อเราเริ่มกลับมาสนใจที่ตัวเอง การปฏิบัติธรรมก็เริ่มขึ้นทันที แล้วเมื่อเราเลิกสนใจตัวเอง การปฏิบัติธรรมก็จบลงทันที

ถ้าเราลืมตัวเอง เราก็กลายเป็นซากศพที่เดินได้ ถ้าเราอยู่ในความคิด เราก็เป็นซากศพที่เดินได้

ใครอยู่ในความคิด ให้รู้สึกตัวขึ้นมา รู้ทันความคิด ไม่เข้าไปในความคิด

จิตเริ่มสงบ เริ่มเคลิ้มก็ต้องรู้ทัน ถ้ารู้แล้วยังเคลิ้มอยู่ ต้องลืมตา

จิตใจเปลี่ยนแปลงก็รู้ พอรู้แล้วเห็นไหมมันคลายไป มันจางไป มันเปลี่ยนแปลง อะไรที่ถูกรู้ทันมันจะเปลี่ยนแปลง ดับไป เมื่อกี้ถ้าใครรู้ สังเกตไหมว่ามันถอนออกมาจากความสุขนั้น เราไม่ได้ไปถอดถอนนะ มันเกิดจากการรู้ แล้วมันถอนเอง มันปล่อยเอง

เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมนั้นมีเพียงกิริยาเดียวคือ “รู้” ไม่มีนะกิริยาไปถอดไปถอนไปปล่อย ทั้งหมดนั้นคือการกระทำทั้งนั้น ฟังให้ดี อย่าฟังข้ามๆ “เรามีเพียงแค่กิริยาเดียวคือ รู้” รู้แล้วมันปล่อยเอง ไม่ใช่ปล่อยวาง ไม่ใช่ไปถอดไปถอน

 

ตอนที่ 2 เคยเห็นทุกข์มั้ย

จิตใจของเราทุกคนตอนนี้มันมีภาระ มันไม่ติดนี่ก็ไปติดนู่น ไม่ติดนู่นก็ไปติดนั่น เราเคยเห็นไหมว่ามันเป็นภาระ มันหนัก พวกเราอาจจะเห็นว่าเวลาจิตเป็นทุกข์ก็ต่อเมื่อมันแปลงเป็นบัญญัติสักอันหนึ่ง เช่น ความห่วง ความกังวล ความโกรธ ความไม่พอใจ เราเห็นกันได้หรือยังว่าสภาพจิตที่ยังติดอยู่กับอะไร หรือระลึกถึงอะไร…แค่ไประลึกถึงอะไรก็เป็นทุกข์แล้ว เพราะมันระลึกถึงปุ๊บติดปั๊บเลย ภาระเกิดขึ้นทันที ยังไม่ต้องมีความพอใจหรือไม่พอใจ หรือชอบไม่ชอบ มันหนักขึ้นมาทันที การปฏิบัติธรรมเป็นแบบนี้คือ “เห็นทุกข์” เมื่อมีสติที่แท้จริงจะเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตามความเป็นจริงว่ามันเป็นทุกข์

เราปฏิบัติธรรมกันมาเคยเห็นทุกข์ไหม หรือปฏิบัติธรรมแล้วมีความสุข อะไรก็ดีไปหมด ถ้าเป็นแบบนั้นมานานไม่เคยเห็นทุกข์เลย ต้องพิจารณาตัวเองว่าที่ปฏิบัติอยู่นั้นมันถูกหรือผิด

บางคนก็เห็นจิตนี้มันสั่นสะเทือนตลอดเวลา สั่นไหวตลอดเวลา มีการกระทบอะไรขึ้นมาก็เกิดความสั่นสะเทือนขึ้นมา ถามว่าเป็นทุกข์ไหม รู้สึกทกุข์ไหม เขาบอกว่ารู้สึก เหนื่อยไหมที่ต้องเห็น เขาบอกว่าเหนื่อย นักปฏิบัติธรรมจะเห็นแบบนี้…เห็นทุกข์ ไม่ใช่เอาแต่จิตสงบจิตสบายจิตว่าง ทั้งหมดนี้คือไม่มีทุกข์เลย ไม่ได้เห็นความจริงเลย

ถ้าเราปฏิบัติธรรมแล้วชอบจิตที่มันสงบ จิตที่มันสบาย จิตที่มันว่าง พอเริ่มนั่งปุ๊บมันก็เตรียมหลับเลย เพราะฝึกมาแบบนั้น ฝึกที่จะให้มันเป็นแบบนั้น เขาก็ชอบสิ ก็เขาฝึกมาด้วยตัวเองเลย

ถ้าเราเข้าใจการปฏิบัติธรรมคือ การเห็นหรือรู้สภาพที่เกิดขึ้นในจิตใจนี้ อาการที่เกิดขึ้นในจิตใจนี้ ตามความเป็นจริง เราจะไม่หลงใหลกับสภาพสงบ สบาย จะไม่หลงใหลเข้าไป เพราะสภาพเหล่านั้นจะถูกรู้ เมื่อสิ่งใดถูกรู้อยู่ เราจะไม่กลืนเข้าไปกับสิ่งๆ นั้น แต่พอมันไม่ถูกรู้อยู่ เราก็กลืนเข้าไปเป็นมัน แล้วพอเสียงระฆังดังนะติ๊ง…เราก็…แหม่ ชั่วโมงนี้นั่งดี สงบดีจัง ตื่นขึ้นมาสดชื่น หลับสบาย นี่ก็เป็นวิธีการตรวจสอบตัวเองง่ายๆ ว่าสิ่งที่เราปฏิบัติมันถูกไหม ทุกข์นั้นมีอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราไม่เห็นแปลว่าเราไม่ได้ปฏิบัติ

ถ้าเปรียบเทียบเหมือน คู่ชีวิตเราเป็นคนคุ้มดีคุ้มร้าย บางวันมันก็ดี บางวันมันก็บ้า บางวันมันก็ร้าย มันเหมือนเป็นคนละคนกับที่เรารู้จัก บางคนเปลี่ยนทุกวัน บางคนเปลี่ยนทุก 5 นาที เรียกว่าคุ้มดีคุ้มร้าย คำถามคือ อยู่กับคนแบบนี้ทุกข์ไหม ถ้ามีใครตอบไม่ทุกข์ เดี๋ยวผมจะพาไปหาจิตแพทย์

เช่นเดียวกัน ถ้าเราปฏิบัติธรรมเห็นจิตเห็นใจ เห็นร่างกายนี้อยู่ มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เดี๋ยวมันพอใจ เดี๋ยวมันไม่พอใจ เดี๋ยวมันโกรธ เดี๋ยวมันไม่โกรธ เดี๋ยวมันอยาก เดี๋ยวมันไม่อยาก เดี๋ยวมันปกติ เดี๋ยวมันไม่ปกติ นี่มันก็คุ้มดีคุ้มร้ายเหมือนกัน แต่เราไม่รู้สึกทุกข์ เราอยู่กับมันแต่บอกไม่รู้สึกทุกข์ นั่นแปลว่าเราต้องไปหาจิตแพทย์เหมือนกัน

เปรียบเปรยว่า ในการปฏิบัติธรรมถ้าเราเป็นคนที่เห็นถูก เราจะเห็นว่า “ชีวิตนี้มีแต่ทุกข์” ปฏิบัติแล้วจะเห็นทุกข์ เปรียบเทียบง่ายๆ แบบนี้

ตอนที่เรามีความสุขในการนอนคือตอนไหน ตอนที่หลับไปแล้วนี่เราไม่รู้เรื่องแล้วนะ มันชอบตอนเคลิ้มๆ เยิ้มๆ นั่นแหละ ช่วงตรงนี้ถ้าใครปลุกเราละก็มีเรื่องเลย

ยังมีสิ่งที่ถูกรู้อยู่ไหม หรือหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ…ธรรมชาติโมหะ!

เห็นร่างกายมันหายใจไหม ร่างกายที่หายใจกำลังเป็นสิ่งที่ถูกรู้อยู่ อย่าละเลยที่จะเห็น ทุกครั้งที่เห็นสติจะเกิดขึ้น ทุกครั้งที่ไม่เห็นนั่นคือหลง เหมือนเราเคยปฏิบัติ เช่น รู้ลมหายใจ เราไม่ได้เห็นร่างกายนี้กำลังหายใจ

 

03-12-2562

Camouflage

คอร์สปฏิบัติธรรมวิถีชีวิตใหม่ 30 พย – 4 ธค 2562

YouTube : https://youtu.be/OQLd6gQxzKI

คลิปเสียงธรรมะทั้งหมดของอาจารย์ Camouflage : https://goo.gl/RDZFMI

======================

5 ช่องทางการอ่านและฟังธรรม

1) Facebook : สุขกาย สุขใจ SookGuySookJai
http://www.facebook.com/sookguysookjai

2) Line : @camouflage.talk
https://lin.ee/hHJprqr

3) YouTube : สุขกาย สุขใจ SookGuySookJai
https://goo.gl/in9S5v

4) Website: https://camouflagetalk.com/

5) Podcast : Camouflage – Dhamma Talk
https://itun.es/th/t6Mzdb.c
https://camouflagetalk.podbean.com/