159.วิถีชีวิตใหม่ : 5 วิจัย

ตอนที่ 1 วิจัย

อย่าลืมว่าเราไม่ได้นั่งเอาความสงบ มันยังไม่สงบก็รู้ว่ามันยังไม่สงบ ไม่ต้องพยายามจะทำอะไรมากกว่ารู้ รับรู้ถึงความมีอยู่ของร่างกายนี้ ร่างกายทั้งร่างกายนี้กำลังนั่งอยู่ไม่ใช่เรานั่งอยู่ เ เราเป็นคนเห็น เป็นคนรู้ว่าร่างกายนี้กำลังนั่งอยู่

วิถีชีวิตใหม่จะเกิดขึ้นจากการที่เรามีมุมมองของชีวิตแบบใหม่ มุมมองที่จะเห็นร่างกายและจิตใจนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่ง เป็นสิ่งที่ถูกรู้ ส่วนเราเป็นคนรู้ ทำไมเราต้องทำแบบนี้ เพราะเรามีความทุกข์ ทำไมเราทุกข์ เพราะเรามีความเห็นผิดว่าร่างกายและจิตใจนี้เป็นตัวเราเป็นของเรา เราไม่ยอมที่จะทุกข์เพราะความเห็นผิดไปทั้งชีวิต เราจึงต้องตื่นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาเพื่อจะเรียนรู้ความเป็นจริงของกายและจิตนี้ว่ามันไม่ใช่เรา มันเป็นไปตามสภาพตามเหตุปัจจัยของมันเอง

ถ้าเราเรียนปริญญาเอก ปริญญาโท ปริญญาตรี เราต้องทำวิทยานิพนธ์หรือทำวิจัย นี่คือโครงงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า “ธัมมวิจยะ” หมายความว่าวิจัยลงไป วิจัยลงไปว่าร่างกายและจิตใจนี้มันใช่เราไหม เราควบคุมมันได้ไหม เราสั่งการอะไรมันได้ไหม เราไม่อยากให้มันเจ็บป่วยได้ไหม เราไม่อยากให้มันตายได้ไหม จิตใจเราสั่งให้มันมีแต่ความสุขได้ไหม สังเกตลงไป สังเกตว่ามันทำอะไร เรียนรู้ลงไป

ความยากของการปฏิบัติธรรม คือ เราชอบหลงเพลินไปในวิถีชีวิตแบบเก่า เผลอคิดว่าร่างกายและจิตใจนี้เป็นของเรา โดยเฉพาะถ้าเราต้องกลับไปอยู่ในโลก ต้องคิด ต้องทำงาน ต้องปฏิสัมพันธ์กับคนมากมาย มันก็ยาก ถ้าเราไม่มีความชำนาญที่จะมีวิถีชีวิตใหม่ ความเคยชินใหม่ โลกจะลากเรากลับไปเป็นคนเดิม เป็นคนที่มีความเห็นผิดแบบเดิมจนทุกข์ถึงที่สุด พวกเราต้องรอให้ร่อแร่ก่อนแล้วค่อยมาคิดถึงการปฏิบัติธรรม เพราะฉะนั้น คนที่อยู่ในโลกที่ไม่มีบุญพอจะมีชีวิตที่จะปฏิบัติธรรมทั้งชีวิต เวลาที่เหลืออยู่ในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมง แต่ละนาทีที่เราไม่ต้องคิดอะไร เราต้องเก็บทุกเม็ด

 

ตอนที่ 2 แค่รู้ รู้เท่าที่รู้ได้

เรายังรู้สึกร่างกายอยู่ไหม สังเกตว่าตัวเองลืมไปไหม ลืมบ่อยแค่ไหน ลืมไปนานไหม เมื่อเรากำลังรู้ความมีอยู่ของร่างกายนี้หรือเรียกว่ารู้สึกตัว เราจะรู้สึกอาการทางจิตใจด้วย มันเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลง กระดุกกระดิกเราก็รู้ได้ เราก็แค่รู้

ถ้าเราเข้าใจว่า ชีวิตที่เหลือของเรามีแค่รู้กับไม่รู้ ปราศจากตัวเรา เราจะหมดความขวนขวาย ความอยาก ความดิ้นรนที่มีเราจะเป็นผู้หลุดพ้น ถ้าทุกคนเข้าใจสิ่งที่ผมพูดว่าเรามีหน้าที่ “แค่รู้” มันไม่มีความอยากหรอก แต่ตราบใดที่เรายังไม่เข้าใจ ยังรู้สึกว่าเราอยากจะหลุดพ้น เรามาปฏิบัติธรรมโดยทิ้งทุกอย่างมาเพื่อที่เราจะหลุดพ้น เราจะต้องผิดหวังเพราะไม่มีเรา ไม่มีใครจะหลุดพ้น เรายังคงเป็นผู้เห็น ผู้รู้ ว่าความหลุดพ้นนั้นเกิดขึ้นที่จิต ไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้น ต่อให้เราอยากเท่าไหร่เราก็ยิ่งห่างไกลจากความหลุดพ้นมากเท่านั้น

บางคนเข้าใจแล้ว รู้ว่าแค่รู้นี่แหละเป็นทาง เลยพยายามอยากจะรู้เยอะๆ ใคร…ใครพยายามอยากจะรู้เยอะๆ มันก็เราอีกแล้ว เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจว่า “แค่รู้ และรู้เท่าที่รู้ได้” ถ้ามันรู้ได้น้อยสิ่งที่เราทำได้ คือ สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดสติ เช่น ไม่หยิบมือถือมาดูบ่อยๆ ไม่เปิดทีวีทิ้งเอาไว้ ไม่ใช่ว่างก็เดินไปคุยกับคนนั้นคนนี้ หาเรื่องทำไปเรื่อย หาเรื่องฟุ้งซ่านไปเรื่อย แค่มีเวลาอยู่กับตัวเอง…อยู่เฉยๆ เราจะค้นพบเองว่าสติเกิดขึ้นบ่อย…เป็นเอง นี่คือคุณสมบัติที่พระพุทธเจ้าให้ไว้กับนักปฏิบัติธรรม… “วิเวก สันโดษ มักน้อย ไม่คลุกคลี

บางคนก็วิเวก สันโดษ มักน้อย ไม่คลุกคลี แต่ฟุ้งซ่านอยู่กับธรรมะทั้งวัน ฟุ้งซ่านกับการอ่าน การฟัง… เมาธรรมะ…เคยเป็นไหม อ่านอันนี้ก็ดี อันนั้นก็เวิร์ค ฟังอันนี้ก็แจ๋ว ธรรมะของคนอื่นทั้งนั้น ให้ฟังพอสมควร อ่านพอสมควร ให้จิตใจมีกำลังใจและลงมือปฏิบัติ ธรรมะอยู่ที่ตัวเราเอง คนพูดก็พูดออกมาจากตัวเองเหมือนกัน

 

ตอนที่ 3 ชีวิตเปราะบาง

ถ้าเราปฏิบัติจริง เราจะไม่รู้สึกว่าวันๆ นึงหมดไปแบบเพลินๆ เคยรู้สึกไหม แป๊บๆหมดวันแล้ว ถ้าใครแป๊บๆหมดวัน แปลว่าหลงทั้งวัน แต่ถ้ามีสติรู้กายรู้ใจอย่างที่มันเป็นอยู่เนี่ยเราจะเห็นมันแสดงแต่ทุกข์ มีทุกข์ทีไรก็โอ้ย… เมื่อไหร่จะพ้นสักทีนึงน้อ…บีบคั้น

ถ้าเราเป็นผู้มีสติอยู่ เราจะได้เรียนรู้ว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์มาก มันต้องการการบำบัดทุกข์อยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวมันก็หิว เดี๋ยวก็หิวน้ำ เดี๋ยวก็หิวกาแฟ เดี๋ยวก็หิวโค้ก ต้องใส่น้ำแข็งด้วยไม่งั้นไม่อร่อย เราจะเห็นว่าร่างกายเดี๋ยวก็ปวด เดี๋ยวก็เมื่อย ต้องไปยืดเส้น นวด จะต้องขับถ่าย กินเสร็จก็ต้องเอาออกอีก ต้องอาบน้ำ ไม่อาบก็เหม็น สังคมรังเกียจอีก เรามีทุกข์ตามบดขยี้เราตลอดเวลา แต่เราไม่รู้

เราไม่ตระหนักรู้ว่าเราถูกความทุกข์บดขยี้ตลอดเวลา เราไม่เคยคิดเลยใช่ไหมว่า ถ้าเส้นเอ็นเราขาดไปสักเส้นหนึ่งจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเรา ถ้าใครเคยนิ้วโดนมีดบาดสักนิ้วหนึ่ง เราจะรู้ว่าเราใช้มันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ คือเพราะมันใช้ไม่ได้เนี่ยโดนบาดทีนึงก็เลยรู้ว่าเราใช้มันเยอะขนาดนี้เลยเหรอนึกว่าไม่จำเป็น เพราะฉะนั้น ชีวิตเราจริงๆ แล้วเปราะบางมาก ถ้ามีส่วนไหนที่บกพร่องไปหน่อย ก็สามารถส่งผลกระทบกระเทือนต่อระบบทั้งชีวิตของเรา ชีวิตจึงเป็นสิ่งอันตรายเรา ไม่รู้วันไหนอะไรจะพัง

ค่อยๆ วิจัยมันลงไป ถ้าเราวิจัยมันลงไปจริงๆ เราจะกลัว ความกลัวนั้นเองช่วยเราไม่ประมาท เพราะเราเห็นความจริงแล้วว่าร่างกายและจิตใจนี้เป็นทุกข์มาก แล้วเราก็ควบคุมให้มันดีตลอดไม่ได้ เรามีแต่ต้องพร้อมที่จะรับมือกับความเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น และมันจะเกิดขึ้นแน่นอน

จิตใจตอนนี้เป็นยังไงรู้ไหม ไม่ลืมทำหน้าที่ซ้อมรบ มีกายและใจ มีหน้าที่รู้สึกแล้วก็รู้ทัน ถ้าไม่ได้รู้สึกและรู้ทันอยู่ แปลว่าหลง ลืมไปแล้ว หายไปในความฝัน หายไปในความคิด หายไปในความเพลิน บางทีรู้สึกตัวแต่จิตใจลอยอยู่ในความเพลินแล้วไม่รู้ แต่ถ้าเราสังเกตเวลาหันกลับมาดูจิตใจว่าเป็นยังไง มันจะกลับมา กลับมาหมด กลับมาอยู่ที่เนื้อที่ตัวจริงๆ ลองสังเกตดูบ่อยๆ ทุกครั้งที่เราลืมดูจิตใจ แล้วเรานึกขึ้นได้ ให้หันกลับมาดูว่าอารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง มันจะกลับเข้ามา มันจะเกิดความอยู่กับเนื้อกับตัวจริงๆ

ถ้ามีความปวดความเมื่อย ให้สังเกตลงไป มันเป็นยังไง มันมีอาการยังไง จริงๆ มันมีชื่อไหม หรือมันเป็นแค่อาการ เป็นแค่อาการอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในร่างกาย อาการนี้แสดงความเปลี่ยนแปลงไหม หรือเท่าเดิมเลย… ธัมมวิจยะ… วิจัยลงไป ความจริงลึกที่สุดคืออะไร เราไม่ได้นั่งเพื่อจะให้ความเจ็บปวดหายไป เรานั่งเพื่อจะเห็นอาการต่างๆ นั้นว่ามันแสดงความจริงอะไร

ถ้าเราหลุดจากความรู้สึกที่กำลังมีหน้าที่เรียนรู้ความเป็นจริงของกายและจิตนี้ เราจะเบื่อ เมื่อไหร่จะเลิก อยากจะไปทำอะไรแล้ว…ไปทำอะไรเหรอ ไปดู YouTube ไปนอนคิดอะไรเล่น ถ้าเรารู้สึกแบบนั้น…เตือนตัวเอง แปลว่าเราไม่ได้กำลังเรียนรู้อยู่ เราดิ้นรนแล้ว ตกเป็นทาสของกิเลสแล้ว

 

01-12-2562

Camouflage

YouTube: https://youtu.be/qul84j7P9ZU
คอร์สปฏิบัติธรรมวิถีชีวิตใหม่ 30 พย – 4 ธค 2562

คลิปเสียงธรรมะทั้งหมดของอาจารย์ Camouflage : https://goo.gl/RDZFMI

======================

5 ช่องทางการอ่านและฟังธรรม

1) Facebook : สุขกาย สุขใจ SookGuySookJai
http://www.facebook.com/sookguysookjai

2) Line : @camouflage.talk
https://lin.ee/hHJprqr

3) YouTube : สุขกาย สุขใจ SookGuySookJai
https://goo.gl/in9S5v

4) Website: https://camouflagetalk.com/

5) Podcast : Camouflage – Dhamma Talk
https://itun.es/th/t6Mzdb.c
https://camouflagetalk.podbean.com/