A : ขออนุญาตแจ้งเรียนผลการปฎิบัติค่ะ
1.เรื่องการสวดมนต์แล้วคิดเรื่องอื่นๆทั้งๆที่ปากก็สวดมนต์อยู่
คำตอบ:ที่ได้หลังจากการสอบถามท่านอาจารย์แล้วก็สวดมนต์แล้วก็พยายามรู้สึกตัวไปด้วยทำมาได้สักอาทิตย์นึง
มีวันนึงสวดมนต์แล้วพยายามรู้สึกตัวไปด้วยคือ
-รู้ปากที่ขยับอยู่
-รู้หูที่ได้ยินเสียงตัวเองอยู่
-รู้ตาที่มองหนังสือสวดมนต์อยู่
ขณะที่รู้อย่างนี้ก็ยังมีความคิดอยู่ แต่พอระลึกถึงตาที่มองหนังสืออยู่ถึงได้รู้ว่าจิตกำลังเพลินกับการสวดมนต์เพราะมันคล่องแคล่ว นึกว่าดูตัวหนังสืออยู่
***แต่จริงๆแล้วจิตมันเพลินและเคลิ้มอยู่เพราะคำที่สวดกับตัวหนังสือบทสวดที่มองอยู่มันไม่ตรงคำสวดอยู่
***จิตมันตื่น(หรือตกใจไม่รู้ค่ะ)มันเหมือนวีดีโอฉายกลับแบบเหมือนเฉลยคำตอบว่าทำไมถึงสวดมนต์แล้วจิตแส่ส่ายออกไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้มีคำตอบคือ อ๋อนี่เราไม่มีจิตที่ตื่น(มันไม่ใช่การตื่นนอน)แต่เป็นการ”ตื่น” ที่จะอยู่กับปัจจุบันมันเหมือนโดนไฟช๊อตมันรวดเร็วมากค่ะ
จิตมันบอก อ๋อมันเป็นอย่างนี้
คือมันเคลิ้มหรือมันหลงโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง
2. เคยสงสัยมากเวลาฟังธรรมะที่สอนเรื่องการ”เห็น” โดย อ.สอนว่าผมเห็นกับพี่เห็นมันต่างกัน
คืออะไรที่มันลอยในนำ้ผมก็เห็นพี่ก็เห็นพี่ก็เห็น แต่ผมไม่เปียก แต่พี่เปียกเพราะพี่อยู่ในน้ำ
ใช้เวลา2ปี กว่าจะ”รู้”
คือเวลาขับรถจะเปิดธรรมะไปด้วยเสมอคือไม่ฟังอย่างอื่นเลย คือเป็นคนชอบหมูปิ้งมากเวลาฟังคำสอนของ อ.ทุกครั้งว่าเวลาเราปฎิบัตเราอาจจะหลงหรือแวะข้างทางเช่นเดินๆไปเจอร้านหมูปิ้งเราอาจแวะทานหรือเป็นผู้ชายอาจเจอลูกสาวเจ้าของร้านหมูปิ้งสวยก็เลยแต่งงานอยู่กับเขาเลย
พี่ไม่เคยเข้าใจแต่ในหัวมันคิดแค่ว่าร้านไหนอร่อยมันอร่อยตรงไหนเครื่องปรุงมีอะไรบ้างน้ำจิ้มอะไรแบบไหนถึงอร่อยและคิดปรุงแบบนี้ซ้ำๆทุกครั้งเมื่อฟังธรรมะมาถึงตอนนี้และธรรมะอะไรที่พูดต่อจากนี้ไม่รู้เรื่องเลยคิดถึงแต่หมูปิ้งเพราะชอบมากค่ะ
คือเหมือนกับว่าฟังมาเป็นพันๆรอบพอผ่านจุดหมูปิ้งก็จะคิดเรื่องหมูปิ้งต่อไปนี่ประมาณ990ครั้งได้
แต่ผ่านมาเกือบสองปีจิตรู้สึกว่ามันเข้มแข็งขึ้น
จิตมันรู้ตื่นอยู่
ขณะที่ขับรถไปตจว.อยู่เรารู้สึกตัวตลอดมือที่ขยับ ตาที่มองถนนอยู่ รู้สึกตัวอยู่
***ขณะที่เท้ากำลังกดคันเร่งอยู่มันรู้สึกเท้าที่กำลังกดน้ำหนักที่กดลง และพอดีที่เสียงธรรมะที่พูดเรื่องหมูปิ้งอยู่นั้นจิตมันตื่นขึ้นมีความรู้สึกเหมือนฟ้าแลบปร๊าบขึ้นมาหน้ากระจกรถ
มันไวมากและมันจะเป็นภาพๆเหมือนฉายสไลด์ไวมาก
เป็นคำตอบว่า คือฟังแล้วรู้เฉยๆไม่ปรุงต่อเรื่องหมูปิ้ง คือนิ่งมากค่ะ
ก็สงสัยว่าทำไมเราไม่อยากกิน, ไม่คิดต่อว่ามีขายที่ไหน, น้ำจิ้ม, หรือรสชาติของหมูปิ้ง
บอกไม่ถูกว่าคืออะไรแต่มันเหมือนคำตอบว่านี่คือการ”รู้เฉยๆ” หรือการรู้แบบไม่เปียกน้ำ หรือเปรอะเปื้อน
คือชั่วเวลาฟ้าแลบมันไวมาก
แต่ในช่วงเวลาเหมือนภาพสโลโมชั่นที่ไวมาก
#ที่เรียนให้ อ.ทราบอันนี้มันถูกต้องแล้วไหมคะทำไมแค่ติดหมูปิ้งอันเดียวใช้เวลา”สองปีกว่า” กว่าจะหลุดคะ
กราบขอบพระคุณมากจริงๆค่ะ
เป็นบุญที่ได้พบเจอธรรมะของพระพุทธเจ้าจากอาจารย์นะคะ
เพราะเข้าใจว่าไม่ว่าใครเป็นคนสอนแต่คนๆนั้นสามารถช่วยให้เราเข้าใจอย่างถ่องแท้เป็นจริง ปฏิบัติแล้วได้เห็นจริงค่ะ
เพราะป้าเคยปิติมากแจกหนังสือ และวิทยุธรรมะให้คนที่เรารัก, เคารพ, อยากให้พบทางแบบเรา
เขาถามว่าพระอะไร
พอเราบอกไม่ใช่พระ
เขาไม่เอาเลย
เราก็รู้สึกเสียใจ แต่มันก็มีเสียงธรรมะจากคำสอนมันผุดขึ้นมาว่า
“มันไม่ใช่ทุกคนที่จะมีบุญได้เจอครูบาอาจารย์ที่สอนธรรมะอย่างถูกต้อง”
ก็เลยทำให้ทุกข์จากการเสียใจน้อยลง
กราบขอบพระคุณในคำสอนนะคะ
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกและบุญที่ อ.เผยแผ่ธรรมะ และคณะแอดมินที่คอยดูแลเพจธรรมมะนี้ด้วยนะคะ
ขอให้เจริญรุ่งเรืองในธรรมยิ่งๆขึ้นไป
ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยใดๆ
พร้อมที่จะสั่งสมบุญต่อๆไปจนถึงนิพพานโดยเร็วด้วยเทอญ
Camouflage : สาธุครับ
ปฏิบัติได้ดีมากแล้วครับ
ผมจะบอกเสมอๆว่า เราทุกคน เมื่อมีบุญพอจะได้พบครูบาอาจารย์ที่แท้จริง ที่จะมอบคำสอนให้เราอย่างถูกต้องได้แล้ว
เรายังต้องอาศัยเวลาและความอดทนที่จะปฏิบัติตามคำสอนนั้นๆ
แม้จะตกซ้ายตกขวาบ้าง แต่ขอแค่ไม่ไปคนละทาง
แล้วเดี๋ยวประสบการณ์ในการปฏิบัติ จะค่อยๆหล่อหลอมความเข้าใจในธรรมนั้นๆขึ้นมาเองครับ
มันไม่ใช่แค่หมูปิ้งหรอกครับ แต่มันคือการใช้เวลา2ปี ที่จะสามารถทำความเข้าใจในหลักที่ผมได้สอนแล้ว
และจะเข้าใจได้ด้วยวิธีเดียวคือการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
ด้วยความเสียสละ และอดทน
A : สาธุๆๆ ค่ะ อาจารย์
คือตอนนี้มันเหมือนน้ำที่ไหลมารวมกันคือธรรมะจากครูบาอาจารย์พระอริยะที่เคยกราบด้วยความเคารพสมัยที่ท่านยังมีชีวิต และตอนนี้มรณะภาพไปแล้ว
ท่านก็สั่งสอน
แต่ตอนนั้นเรียกว่าบุญไม่ถึง คือตั้งใจมากเกินไป ฝืนธรรมชาติ ขาดความเข้าใจ
แต่มาตอนนี้ พอนึกถึงคำสอนของท่านและฟังMP3 ของท่านอาจารย์บ่อยๆก็บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ
มันเข้าใจว่าอ๋อ มันหมายความว่าอย่างนี้หรอ อ้อๆๆ
อย่างเช่น การหยุดของลมหายใจ หลังจากเดินจงกรมสุดทางก็จะหยุดเดิน และดูว่าลมเข้าสุด แล้วยังไม่หายใจออก มันนิ่งสงบ และเห็นกายของตนเอง
***แต่พอฟังธรรมะของอาจารย์แล้วมันเหมือนเสียงเตือนเราว่าทุกๆช่วงการหายใจมันมีการหยุดนิดนึงตลอด ไม่ว่าหายใจเข้า หรือหายใจออก, หรือการขยับร่างกาย,มือ,นิ้ว,ตา ขณะปฏิบัติมันจะมีอาการหยุดให้รู้
#เกิดความเข้าใจเรื่องของ”การหยุด”
ไม่ว่าฟังมาจากครูบาอาจารย์พระที่สอนวิปัสนามา ก็จะเหมือนมารู้พร้อมๆกันว่ามันเป็นแบบนี้…เออใช่
ทำไมเมื่อก่อนไม่เข้าใจนะ
ดังนั้นทุกครั้งที่สวดมนต์ไหว้พระ และอุทิศกุศลต่างๆได้นึกถึงอาจารย์CAMOUFLAGEเสมอค่ะ
เพราะนึกถึงบุญคุณที่ทำให้ได้ “รู้” และก็มีอีกหลายเรื่องที่มันมาสะกิดกันทำให้รู้สึกว่าอ๋ออย่างนี้นี่เอง
ป้ากราบขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ
Camouflage : สาธุครับ