ลัด สั้น ถูก ตรง สู่การ บรรลุธรรม

[av_image src=’https://camouflagetalk.com/wp-content/uploads/2014/09/Enlightenment-205×300.jpg’ attachment=’1574′ attachment_size=’medium’ align=’center’ styling=” hover=” link=” target=” caption=” font_size=” appearance=” overlay_opacity=’0.4′ overlay_color=’#000000′ overlay_text_color=’#ffffff’ animation=’no-animation’ av_uid=’av-1zbz7q’][/av_image]

คำนำผู้เขียน

 

ย้อนไปเมื่อเดือนกันยายน ปีพุทธศักราช ๒๕๖๐ ทางบรรณาธิการหนังสือธรรมะ ได้ติดต่อผมผ่านมาทางทีมงานว่าคุณเมตตา อุทกะพันธุ์ ผู้บริหารบริษัทอมรินทร์พริ้นท์ติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) มีโอกาสได้ศึกษาธรรมะที่ผมได้เคยเขียนบรรยายเอาไว้และมีความประทับใจมาก จึงอยากขอนำเนื้อหาคำบรรยายมารวบรวมพิมพ์เป็นหนังสือธรรมะ และวางจำหน่ายทั่วประเทศ

ระหว่างผมกับคุณเมตตา ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน แม้กระทั่งขณะที่ผมกำลังเขียนคำนำนี้ เราก็ยังไม่เคยแม้แต่จะได้สนทนากัน ด้วยความที่ผมใช้นามปากกาในชื่อว่า Camouflage (คามูฝลาจ) หมายถึงการพรางตัว ซึ่งทางคุณเมตตาและทีมงานต่างเข้าใจดี และเคารพในความเป็นส่วนตัวที่ผมสงวนเอาไว้ ด้วยลักษณะเช่นนี้ ผมจึงไม่มีโปรไฟล์ใดๆ ที่จะสามารถค้นหาได้จากGoogle เพื่อที่จะรู้ได้ว่าผมเป็นใคร

และแม้ว่าผมจะไม่ได้มีชื่อเสียงใดๆ ที่พอจะช่วยส่งเสริมการขายให้กับหนังสือเล่มนี้แม้แต่น้อย แต่แล้วด้วยใจที่สนใจเพียงแค่แก่นธรรมแท้ล้วนๆ และหวังให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ดังเช่นที่ตนเองได้รับ จึงก่อเป็นแรงบันดาลใจให้ คุณเมตตาและทีมงาน มีความตั้งใจที่จะผลิตหนังสือธรรมะเล่มนี้ออกมาเพื่อประโยชน์ในวงกว้างต่อไป

และนี่คือพลังใจที่พร้อมจะเผยแผ่ อย่างแท้จริงในโอกาสนี้ ผมขออนุโมทนากับคุณเมตตา อุทกะพันธุ์ ที่เห็นความสำคัญของเนื้อหาแก่นธรรมะเป็นหลักใหญ่

ที่ผมกล่าวเช่นนี้ เพราะการให้ความสนใจไปที่เนื้อหาธรรมะล้วนๆ มากกว่าการมองหาว่าใครเป็นคนแสดงธรรมนั้น เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของนักปฎิบัติธรรม ในแง่ของการรู้จักเปิดรับ และนำมาลองปฏิบัติด้วยใจซื่อๆ ที่ปราศจากทิฏฐิและอคติเข้ามากางกั้น และด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ หากผู้นั้นได้พบเจอธรรมแท้ ก็ย่อมกลายเป็นการเปิดโอกาสให้กับชีวิตตนเองที่จะได้พบเจอเส้นทางที่นำพาจิตที่เต็มไปด้วยอวิชชาไปสู่ความบริสุทธิ์หลุดพ้นในที่สุด

แต่ถึงกระนั้น แม้ว่าธรรมที่เจอนั้นจะยังไม่ใช่ธรรมแท้ แต่ด้วยคุณสมบัติซื่อๆของบุคคลที่มีใจเปิดกว้าง ลงมือปฏิบัติตามด้วยความซื่อตรง ผู้นั้นก็ย่อมที่จะรับรู้รับทราบด้วยใจตนเองว่าธรรมที่พบเจอนั้น ยังไม่ใช่ทางเช่นกัน

ดังเช่น เจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อเริ่มออกแสวงหาความพ้นทุกข์ ท่านเองได้ใช้ใจที่ซื่อตรง อ่อนน้อม ต่อคำสอนของอาจารย์ทั้งสอง ได้แก่ อุทกดาบส และ อาฬารดาบส ท่านปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ทั้งสองจนสำเร็จฌานขั้นสูงสุด  และเมื่อสำเร็จแล้วท่านจึงได้ค้นพบว่า ฌานเช่นนั้นยังไม่ใช่เส้นทาง ยังไม่สามารถนำไปสู่ความบริสุทธิ์หลุดพ้นอย่างแท้จริงได้

ใจที่บริสุทธิ์เปิดกว้างนั้นเป็นกุญแจสำคัญที่ก่อให้เกิดการนำธรรมะไปปฏิบัติด้วยความซื่อตรง ด้วยความปราศจากอคติ ทิฏฐิส่วนตัว และเมื่อได้ทำเช่นนั้นแล้ว ธรรมะที่ได้นำไปปฏิบัติย่อมแสดงผลลัพธ์ออกมาอย่างซื่อตรงเช่นกัน

ธรรมแท้นั้นย่อมนำความปกติสุขมาให้กับชีวิต” ธรรมแท้นั้นไม่นำมาซึ่งความเครียด ความอึดอัด ความแข็งเกร็ง จนนำไปสู่ความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ

หนังสือเล่มนี้ เป็นการรวบรวมเนื้อหาจากธรรมะที่ผมได้เขียนไว้ ได้บรรยายไว้ ตั้งแต่เบื้องต้น ในแง่มุมของความน่าเบื่อที่มองไม่เห็นของสรรพชีวิต เป็นมุมมองใหม่สำหรับคนในโลกที่จะได้พิจารณาว่าแท้จริงแล้วชีวิตของเราเป็นอย่างไรกันแน่

และเมื่อแต่ละท่านเข้าใจชีวิตในมุมมองใหม่อย่างลึกซึ้งขึ้นแล้ว ท่านจะมีความพร้อมที่จะเปิดรับการเห็นความจริงอีกด้านหนึ่งที่มีอยู่เสมอมา ความจริงที่เราทุกคนมองข้ามมันไป เนื่องด้วยไม่เคยมีใครชี้ให้เราเห็นความสำคัญของสิ่งที่เราละเลยมาตลอดชีวิตตั้งแต่เราเกิดขึ้นมา และความจริงนั่นคือ “สภาพปกติ” ที่มีอยู่แล้วในใจของพวกเราทุกคน

และเมื่อเรากลับสู่สภาวะแห่งความเป็นปกติได้ ในขณะนั้นความตื่นรู้จะเริ่มทำหน้าที่ของมัน และด้วยความตื่นรู้เช่นนั้น จะเป็นกิริยาสำคัญที่จะพาเราทุกคนไปถึงซึ่งความบริสุทธิ์หลุดพ้นในที่สุด

หนังสือเล่มนี้จะพาทุกท่าน ได้รู้จักสภาวะธรรมดาๆ ที่เราทุกคนเข้าถึงได้ สัมผัสได้ เป็นสภาวะที่ทุกคนใฝ่หาเสมอมา นั่นคือ สภาวะแห่งความพ้นทุกข์โดยสมบูรณ์

 Camouflage

๔ ธันวาคม ๒๕๖๐

หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

หรือจะสั่งออนไลน์ได้ที่ : https://facebook.com/commerce/products/1737976436260755

หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมหนังสือ 3 เล่มแรกที่ได้พิมพ์ออกมา คือ เล่ม ความน่าเบื่อที่มองไม่เห็น ความปกติที่หายไป และการเดินทางที่ปราศจากผู้เดิน