9.หยุด…เพื่อ…ตื่น

 

ตอนที่ 1 ถูกหลอกมาทั้งชีวิต

มาถึงวิธีการปฏิบัติเรื่องหยุด การหยุดนี้เป็นประตูสำคัญ ที่จะทำให้เรารู้จักความเป็นปกติได้ เพราะว่าในชีวิตประจำวันของคนทุกคนนี้ ถ้าเราพูดกันตั้งแต่เกิดมาเลย พอเราจะอยู่เฉยๆ เราจะเป็นปกติอยู่ใช่มั๊ย

(แต่)คนรอบข้างหรือสังคม เขาไม่ได้ยอมให้เราเป็นแบบนั้น เขาอยากให้เราเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ เขาอยากให้เราเป็นคนที่รู้จักคิด … คำสอนของคนในโลกนี้อ่ะ…รู้จักคิด!!! ถ้าเราอยู่เฉยๆ เป็นปกติ เราสบายอยู่แล้ว(จะ)เหมือนเราซื่อบื้อ เหมือนเขาจะมองเราเป็นคนซื่อบื้อ

ทีนี้ความเป็นปกติที่ทุกคนมีอยู่แล้วนี้ มันเป็น ความเป็นปกติแบบตื่นเนื้อตื่นตัว ไม่ใช่ความเป็นปกติแบบซื่อบื้อ แต่เพราะว่าคนเรามันไม่มีใครสอน พอมันมี(ความปกติ)ปุ๊ปนี่ ยังไม่ได้ทันได้รู้จักมัน ยังไม่ทันได้สังเกตมัน ยังไม่ทันได้รู้ว่าความเป็นปกตินี้เป็นพลังอันยิ่งใหญ่แค่ไหน

เราก็ไปคิด…เพราะว่าคนเขาชอบให้เราคิด เราก็ไปคิดนู่นคิดนี่ วางแผนเดี๋ยวจะทำอะไรต่อดี เอ…เดี๋ยวจะทำยังงี้ต่อดี เดี๋ยวจะทำยังงั้นต่อดี หลังจากนั้นบางทีก็มีตัณหา เอ้อ…อยู่เฉยๆอย่างนี้ควรจะทำอะไรหน่อย ก็มีตัณหาที่จะไปสนอง หาอะไรทำ จะได้ความสุข ความสุขทางโลกนะ คือจะ ได้เวทนาที่แตกต่างไปแค่นั้นเอง

เพราะว่าความเป็นปกติที่มันราบเรียบอยู่แล้วในจิตในใจนี้ มันรู้สึกว่ามันไม่ตื่นเต้นเร้าใจ มันชอบหาอะไรที่มัน…มันหวือหวา มันอะไรอย่างงี้ มันก็เลยไปหาความสุข แล้วก็ทิ้งความเป็นปกตินี้…ไม่เอา

พอมันเป็นแบบนี้อยู่ทั้งชีวิต แล้วเราก็ติดนิสัยมาใช่มั้ย ? ทั้งชีวิตเราก็ดิ้นรน ที่จะคิดนู่น คิดนี่ หานี่ทำ หานู่นทำ หานั่นทำ…อะไรแบบนั้น

 

คิดว่าการมีชีวิตอยู่บนความดิ้นรนที่ต้องคิดๆๆๆ แล้วก็ทำนู่น ทำนี่ ทำนั่น แบบนี้ เป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ในโลกยกย่องสรรเสริญ แต่จริงๆเราสามารถ ทำอะไรก็ตามบนพื้นฐานของความเป็นปกติได้…อันนี้เป็นชีวิตใหม่เลย

โลกนี้ไม่ได้สอนแบบนี้…ใช่มั้ย? โลกนี้สอนให้เราอยาก ให้เรามีจุดหมาย ให้เรามีเป้าหมายของชีวิต ว่าเราจะต้องมีเงินเท่านี้ในเวลาเท่านี้ แต่งงานในเวลานี้ ควรจะมีรถ มีบ้าน มีอะไรในเวลาในช่วงอายุเท่านี้ เขาสอนให้ เรามีแต่เป้าหมายบนพื้นฐานของความอยากอย่างเดียว ว่าอย่างนี้เรียกประสบความสำเร็จ

แต่ไม่มีใครสอนว่า (ต้องมี)ความเป็นปกติอันนี้ให้เป็นพื้นฐานก่อน แล้วค่อยไปทำอะไรๆ มันจะดีกว่า ไม่มีใครสอนแบบนั้น เราเลย ถูกหลอกมาทั้งชีวิต

ทีนี้พอเรามีธรรมชาติของการที่เราชอบคิด ชอบทำนู่น ทำนี่ บนพื้นฐานของความดิ้นรน แล้ววันนึง เรามาบอกว่าให้รู้จักความเป็นปกตินี้เอาไว้ ความเป็นปกตินี้มันมีอยู่แล้ว แต่เราละเลยมันไป เราไม่สนใจมัน พอมันมีเราก็รีบทิ้งมันเลย เพราะเราคิดว่า เราควรจะคิดอะไรที่มันสร้างสรรค์ดีกว่า มีประโยชน์ดีกว่า

แทนที่เราจะสร้างฐานของความเป็นปกตินี้ก่อน แล้วเราค่อยไปทำอะไรที่มันมีประโยชน์ แต่เรากลับอยู่บนความดิ้นรนทันที แล้วเราก็ไปทำอะไร…เรานึกว่ามันดี

ชีวิตของคนเรามันก็ไม่เคยเป็นปกติอีกเลย…จริงๆมันมีแหละ แต่มันคงน้อยมาก ไม่งั้นมันคงบ้าไปแล้ว มันคงมีโม้เม้นท์(Moment)ปกติเหมือนกันแหละ แต่เราไม่ได้ให้ความสำคัญมัน

เหมือนคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ไม่ขยับเลย แขนขาก็เล็กลงใช่มั๊ย ลีบใช่มั้ย (เหมือน)พวกมนุษย์ก็พัฒนา เมื่อก่อนกินอะไร เขาบอกว่าฟันกรามเราใหญ่ใช่มั๊ย ฟันเคยมีเยอะซี่มากๆเพราะต้องกินของที่มันหยาบ มันต้องใช้ฟันเยอะแหลมคม ทีนี้พอมันกินของประณีตขึ้น มันก็พัฒนาจนฟันเราเล็กลง กรามเราเล็กลง…อะไรแบบนั้น

ทีนี้จิตเหมือนกัน มันก็ถูกพัฒนาตามความเคยชินคือ พื้นฐานของความดิ้นรน แล้วก็ค่อยไปทำอย่างนู้น อย่างนี้ อย่างนั้น ถูกพัฒนาไปแบบนั้นเหมือนกัน ทีนี้พอเราบอกว่า เฮ้ย…มาเห็นความเป็นปกติที่มีอยู่แล้ว ให้เห็นบ่อยๆ…..มันจะเห็นบ่อยๆ มันไม่ได้แล้ว เพราะว่าอะไร ? เพราะว่าพื้นฐานจิตมันถูกพัฒนามาทางความดิ้นรนตลอดชีวิต

 

ตอนที่ 2 กลับไปสู่ธรรมชาติที่แท้จริง

มันเลยจำเป็นที่จะต้องทำในรูปแบบเพราะการทำในรูปแบบ…มันมีการหยุด ที่บอกว่าเดินจงกรมใช่มั๊ย  เริ่ม หายใจเข้า หายใจออก สบายๆ แล้วก็เดิน ไปถึงสุดทางจงกรมก็หยุด!!! … แล้วหายใจเข้า หายใจออกสบายๆ ไม่ใช่ต้องสั้น ต้องยาว อันนี้เอาตามธรรมชาติ แล้วเราก็รู้สึกถึงความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ทั่วพร้อมไม่ใช่หมายความว่าไปสแกนร่างกายนะ คือทั่วพร้อมหมายความว่า ก็รู้ทั่วๆ รู้เท่าไหนเท่านั้น อะไรอย่างงี้

ความฟุ้งซ่านจากการเดินมารอบนึงปึ๊บนี่ พอเราหยุด…ปึ้ง แล้วเราก็รู้สึกตัว” ความสงบระงับมันจะกลับเข้ามาที่ร่างกายนี้เลย แล้วมันก็ตื่นตัวขึ้นมา

เพราะฉะนั้นการหยุดนี้ มันเป็น การหยุด…เพื่อทำให้ความตื่นตัวนี้เกิดขึ้น มันเป็นความตื่นตัวบนความเป็นปกติ

จิตใจจะรู้สึกว่าปกติ เพราะมันหยุด พอร่างกายนี้หยุด โลกหยุด ความคิดหยุด ทุกอย่างหยุด ความฟุ้งซ่านหยุด ความตื่นตัวที่แท้จริงมันเลยเกิดขึ้น แล้วมันเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความเป็นปกติอยู่

เพราะฉะนั้นการหยุดจำเป็นมากสำหรับคนทุกคน ที่ทั้งชีวิตมันมีแต่ความดิ้นรนของจิต มันเปลี่ยนธรรมชาติจากความที่เคยมี(ความ)ปกติอยู่บ้าง แล้วมันก็(ถูก)เปลี่ยนโดยสังคม โดยความคิดของคนรอบข้าง สั่งสมหล่อหลอมเรามาว่าเราต้องคิด

 

การปฏิบัติธรรมคือ เรากำลังจะเปลี่ยนกลับไปสู่ธรรมชาติที่แท้จริง คือธรรมชาติของความเป็นปกติ…ที่เราลืมมันไป

แล้ว สิ่งที่จะพาไปสู่การรู้จักธรรมชาตินั้นบ่อยๆ ก็คือการหยุด…แล้วก็สัมผัสความเป็นปกตินั้น สัมผัสความตื่นตัวบนความเป็นความปกตินั้น

หน้าที่ของเราคือ สร้างสิ่งแวดล้อมให้เกิดสภาวะของความเป็นปกตินั้นบ่อยๆ แล้วจิตมันจะได้สัมผัส  มันจะได้รู้จักสภาวะนั้นเรื่อยๆ

พอเราปฏิบัติในรูปแบบจนจิตนั้นสัมผัสความเป็นปกติ ความรู้สึกตื่นเนื้อตื่นตัวบนความเป็นปกตินี้เรื่อยๆ…มันจะเป็นฐาน

ทีนี้เขาจะบอกว่าการปฏิบัติธรรมนี้ เราต้องกลมกลืนทั้งในรูปแบบและนอกรูปแบบ คือหมายถึงว่าในชีวิตประจำวันก็ต้องกลมกลืนด้วย ฐานแห่งความเป็นปกติ ฐานแห่งความตั้งมั่นของความตื่นตัวนี้ มันจะไปเป็นฐานที่จะใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ มันถึงจะเกิดฐานนี้ได้ อิริยาบถใหญ่ อิริยาบถย่อย ถึงจะรู้สึกขึ้นมาได้ เพราะเรามีฐานนี้แล้ว ฐานของความตั้งมั่นของสมาธินี้จากการปฏิบัติในรูปแบบ…จากการหยุด…แล้วรู้จักความปกตินั้น

ต้องฟัง YouTube ต้องฟังธรรมบ่อยๆ เพราะว่าความเข้าใจมันจะลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ แต่คนที่ฟังไม่บ่อย มันก็จะเป็นแบบนี้ แบบที่กำลังเกิดขึ้นก็คือว่า มันรู้สึกว่าเข้าใจ…แต่จริงๆยังไม่เข้าใจความสำคัญของมัน…ว่ามันสำคัญมาก   นี่! มันจำเป็นแบบนั้น…การฟังบ่อยๆ ฟังธรรม สนทนาธรรม เข้าหาครูบาอาจารย์ ทุกอย่างองค์ประกอบเหล่านี้จำเป็นหมด การฟังธรรมจะเข้าใจอะไรมากขึ้น พร้อมการปฏิบัติไปด้วย การสนทนาธรรมแบบนี้ ถ้ามีคนที่แนะนำได้ เค้าจะช่วยย้ำสิ่งที่เราขาด

 

ตอนที่ 3 ถ้าหยุดถูกต้อง…ต้องตื่นตัว

มาถึงเรื่องขยับมือ เวลาเราเริ่มขยับมือนี่ นั่งสบายๆใช่มั๊ย เราลืมตาใช่มั๊ย เราไม่ได้หลับตาใช่มั๊ย เราตั้ง(มือ)ขึ้น…เราตั้ง(มือ)ขึ้นปึ๊บ…ตั้ง(มือ)แล้วให้มันหยุด…หยุดจริงๆ ไม่ใช่ว่า ตั้ง(มือ)ขึ้นปึ๊บ ก็เตรียมคล้ายๆว่ามันพร้อมจะไปต่อเลย…ไม่ใช่แบบนั้น

มันตั้ง(มือ)ขึ้นปึ๊บ…หยุด…หยุด…แล้วรู้สึก แล้วสัมผัสอาการหยุดนั้นไว้ คนส่วนใหญ่พอตั้ง(มือ)ขึ้นปุ๊บ มันไม่ได้รู้ ไม่ได้สัมผัสอาการหยุด ที่ว่าทุกสิ่งหยุด โลกหยุด วัฏฏะหยุด ไม่ได้รู้สึกถึง ความหยุดที่มันพิเศษมาก มันทั้งหยุด ทั้งปกติ ทั้งราบเรียบ ทั้ง…อีกหลายๆอย่าง ที่จะสัมผัสความรู้สึกแบบนั้นได้ หยุด…แล้วรู้สึกแบบนั้นก่อน

คนส่วนใหญ่ก็พอตั้ง(มือ)ขึ้นปุ๊บ…มันไปคิดว่าเดี๋ยวจะไปต่อแล้ว นึกออกมั๊ย มันไม่ได้สัมผัสการหยุดนี้ มันคิดแต่จะ…เดี๋ยวเดี๋ยวไปต่อแล้ว เดี๋ยวไปต่อแล้ว เดี๋ยวไปต่อแล้ว มันไม่ได้สัมผัสอาการหยุดนี้เลย

แต่ถ้าไปอ่านหนังสือหลวงพ่อเทียน เขาจะเขียนเลยว่า พลิกมือตั้งขึ้น รู้ หยุด…แล้วก็รู้ ใช่มั๊ย เขาจะมีคำนี้เลยว่าหยุดแล้วก็รู้ นี่ประมาณนี้

เพราะฉะนั้นการรู้สึกสัมผัสความเป็นปกติ “อาการหยุด โลกหยุด วัฏฏะหยุด ทุกสิ่งหยุด เป็นสิ่งที่จะไม่เจอในโลกเลย” แต่มันเกิดขึ้นได้จากการแค่เราพลิกมือแล้วหยุด แล้วสัมผัสมัน…แค่นั้นเอง

แล้ว 14 จังหวะเป็น 14 จังหวะของอัจฉริยะอย่างหลวงพ่อเทียนเลย อันนี้ทุกครั้งที่หยุด จิตจะตื่นขึ้นเลย โพลง! ถ้าหยุดถูกต้อง มันจะเกิดความตื่นเนื้อตื่นตัว มันจะตื่นเนื้อตื่นตัวบนความเป็นปกติ มันจะมีพลัง

แล้ว 14 จังหวะภายในเวลาไม่กี่วินาทีเคลื่อนปุ๊ป ถึงแม้ตอนเคลื่อนแรกๆจิตอาจจะเริ่มไหว กำลังจะไปคิดแล้ว พอเคลื่อนปุ๊ป…มันกำลังจะไปก่อรูปของความคิด…ยังไม่ทันก่อเลย มันต้องหยุดอีกรอบนึงแล้ว

แล้วพอมันหยุดอีกรอบนึง ทุกสิ่งก็ทลายลงอีก สังสารวัฏ ความคิดทั้งหลายทลายลงอีก สัมผัสความหยุดนั้นอีก ยังไม่ทันก่อรูปเลยใช่มั๊ย ได้หยุดอีกแล้ว

คนคิดว่าการเคลื่อน พรึ่บพรั่บ พรึ่บพรั่บไปเรื่อย นึกว่ารู้สึกตัวอยู่…แต่จริงไม่ใช่ เพลินอยู่แต่ไม่รู้ กำลังเพลินกับการขยับไปเรื่อย แล้วก็ถามว่ารู้สึกตัวมั๊ย…รู้สึกไม่ใช่ไม่รู้สึก…แต่รู้สึกบนโมหะเคลือบอยู่ มันเลยเป็นความรู้สึกบนความเพลิน ไม่ใช่ความรู้สึกบนความเป็นปกติอยู่

แต่การหยุดจะรีเซ็ท(Reset)ทุกอย่าง ทุกครั้งที่หยุดจะรีเซ็ท(Reset) ความตื่นตัว 100% จะเกิดขึ้นใหม่ จะเกิดขึ้นใหม่ จะเกิดขึ้นใหม่ จนมันเป็น 100% ตลอดสาย หยุดนี่บางทีลมหายใจก็หยุดด้วย มันจะหยุดทั้งหมด มันจะตื่นตัวขึ้นมาเลย “ถ้าหยุดถูกต้อง…ต้องตื่นตัว ไม่ใช่หยุดถูกต้องแล้วจะหลับ ไม่ใช่แบบนั้น

 

ตอนที่ 4 ความตื่นตัวกินโมหะ

พระพุทธเจ้านี้ อย่างในซีรี่ย์มหาศาสดาโลก พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดอะไรเยอะเลย พระพุทธเจ้าพูดถึงอะไรเป็นหลัก พูดถึงบอกว่าเธอจงตื่นขึ้นมา เราเป็นผู้ตื่นแล้ว เราตื่นออกมาแล้ว มีแต่คำว่าตื่นทั้งนั้นเลย เพราะฉะนั้น ตื่นนี่แหละคือหัวใจสำคัญในการปฏิบัติธรรม

จงตื่นออกมา จงตื่นออกมาจากโมหะ จงตื่นออกมาจากสภาพของความเพลินที่เรามองไม่เห็นมันด้วยซ้ำว่าเราเพลินอยู่

เพราะฉะนั้นเลยกลับมาที่ว่าทำไมการหยุดสำคัญ เพราะการหยุดนี้มันทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นโลก มันทำลายความเพลินด้วย ความหยุดนี้ ใช่มั้ย ?

หยุดปุ๊บ…มันเป็นปกติ ทุกอย่างหยุด โลกหยุด แล้วมันจะเหลืออะไร ถ้าโลกหยุดไปแล้วมันจะเหลืออะไร…มันไม่เหลืออะไร สังสารวัฏพังไปแล้ว

หยุดเกิดขึ้น ความเป็นปกติ ความราบเรียบก็เกิดขึ้น เราก็เห็นมัน รู้สึกได้ทันทีถึงความเป็นปกติ มีความตื่นตัวบนความเป็นปกติ  นั่นแหละคือ นิพพานชิมลอง ที่เขาพูดนิพพานชิมลอง นิพพานระหว่างวัน คือลักษณะแบบนี้

เพราะฉะนั้นต่อจากนี้เดี๋ยวลองไปทำดู มันจะต้องรู้สึกแบบใหม่เลยแน่นอน แล้วก็ฟัง YouTube ไปด้วย ทำแล้วก็ฟังไปด้วย มันก็จะค่อยๆเข้าใจมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น จะต้องเกิดความรู้สึกใหม่ เป็นความตื่นตัว เป็นความรู้สึกใหม่ของชีวิต

คำสอนนี้เป็นคำสอนที่หลวงพ่อเทียนให้มาตั้งแต่หลวงพ่อเทียนยังอยู่แล้ว จริงๆคำสอนของหลวงพ่อเทียนมันสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ความเป็นปกติที่เป็นพื้นฐาน ที่เป็นรากฐานอันนี้ เป็นสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญ แล้วที่เหลือมันจะเป็นความเป็นเอง

ไม่ว่าจะอะไรๆๆ ต่างๆนาๆ ที่พูดๆๆกันนี้ ที่มันดูหรูหราไฮโซ มันจะเป็นเอง สิ่งที่เราจะเน้นก็คือจุดที่สำคัญที่สุดที่ทุกคนจะต้องสร้าง ที่ทุกคนจะต้องเห็นมันก่อนมันคืออะไร ?

เพราะอะไร…มันคือฐานสำคัญที่สุดของการที่ทุกอย่างจะพัฒนาขึ้นไปได้ พอมันพัฒนาขึ้นปุ๊บมันจะไปต่อ แล้วมันก็จะเริ่มมีอะไรที่รู้สึกว่า เอ้อ…มันเปลี่ยนแปลงมันดีขึ้น มันรู้สึกมันหนักแน่นขึ้น เอ๊ะ…รู้สึกฐานของจิตมีแล้วนะ มันรู้สึกว่าอ้อ…ความเป็นปกติ…มันไม่ค่อยมีอะไร…ความฟุ้งซ่านน้อยลง ความคิดน้อยลง นี่มันจะเกิดภาวะของ ความตื่นตัวกินโมหะ

พอมันกินโมหะ ไอ้สิ่งที่เกิดตามโมหะมามันก็เกิดไม่ได้ เพราะเหตุมันเล็กลง เอ้อ…เพราะความตื่นตัวมันกินพื้นที่มัน และเดี๋ยวผลอะไรต่างๆ มันมาเอง

Point(จุด)สำคัญ คือ รู้จักสิ่งที่มีอยู่แล้ว ให้รู้จักมันเอาไว้ สิ่งที่เราลืมมันไป ละเลยมันไปตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่เราเกิดมา…

 

Camouflage

28 – Nov – 15

 

ถอดไฟล์เสียงจาก YouTube : https://youtu.be/u0wFuMPP7O8

คลิปเสียงธรรมะทั้งหมดของคุณ Camouflage : https://goo.gl/RDZFMI

======================

5 ช่องทางการอ่านและฟังธรรม

1) Facebook : สุขกาย สุขใจ SookGuySookJai
http://www.facebook.com/sookguysookjai

2) Line : @camouflage.talk
https://line.me/R/ti/p/%40camouflage.talk

3) YouTube : สุขกาย สุขใจ SookGuySookJai
https://goo.gl/in9S5v

4) Website: https://camouflagetalk.com

5) Podcast : Camouflage – Dhamma Talk
https://itun.es/th/t6Mzdb.c