เราไม่ได้เริ่มจากอิสระตั้งแต่ก้าวแรก

คำสอนของหลวงพ่อเทียนที่ว่า

ความจริงนั้นรู้ล่วงหน้าไม่ได้

นี่เป็นเรื่องสำคัญมากนะ

คำว่า ความจริงนั้นรู้ล่วงหน้าไม่ได้ ไม่ได้หมายความถึงแค่บทสรุปทางความจริง เช่น ไตรลักษณ์ หรือนิพพาน หรืออะไรก็ตามที

แต่หมายถึงว่าทุกขณะของชีวิตนั้นรู้ล่วงหน้าไม่ได้
มันจะรู้ล่วงหน้าไม่ได้ ได้ยังไง?

นั่นแปลว่ามันต้องไม่มีบทสรุปเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมทั้งหมดหลงเหลืออยู่ในสมองของเรา

ถ้ามันหลงเหลืออยู่ มันจะแอบมีความรู้ล่วงหน้าว่าจะทำยังไงกับขณะนี้ หรือกับขณะที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

ถ้าเราหลงเหลืออะไรแม้แต่นิดเดียวต่อขณะนี้ นั่นคือความที่เรารู้มันล่วงหน้าแล้ว แม้ว่านิดหน่อยก็ตาม

แต่จริงๆ แล้วชีวิตคือ การที่ไม่รู้อะไรล่วงหน้าเลย และไม่มีการปฏิบัติต่อขณะนี้ด้วยการรู้ล่วงหน้าว่าจะปฏิบัติยังไงต่อขณะนี้ด้วย
เพราะนั่นคือความหลงเหลือ

การรู้อะไรล่วงหน้าต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เช่น การรู้ล่วงหน้าว่าควรจะปฏิบัติต่อมันยังไง นั่นทำให้เกิดขอบเขตของขณะนี้ทันที เกิดขอบเขตของชีวิต ความคับแคบได้เกิดขึ้น กรงขังได้เกิดขึ้น อิสรภาพได้หายไป

เพราะฉะนั้น อิสระตั้งแต่ก้าวแรกเป็นเรื่องที่ยากมาก เข้าใจยากมากด้วย อธิบายก็ยากด้วย

ถ้าเข้าใจสิ่งที่ผมสื่อสาร เราจะพบว่ามันตรงข้ามกับทุกวันนี้ที่นักปฏิบัติทำกัน

เราไม่ได้เริ่มจากอิสระตั้งแต่ก้าวแรก

เราเริ่มด้วยเงื่อนไขร้อยแปดพันประการในก้าวแรก
มันตรงกันข้าม เราถึงเป็นแบบนี้กัน

และอิสระตั้งแต่ก้าวแรก นี่คือชีวิตที่แท้จริง

ทำไมเราอิสระตั้งแต่ก้าวแรกไม่ได้?
ฮวงโปพูดว่าเพราะเราไม่กล้าปล่อยทั้งสองมือ ประโยคนี้สำคัญมากเลย ผมอ่านปุ๊บนี่จับใจมากเลย

ทำไมเราถึงปฏิบัติธรรมไม่ถูกสักทีนึง เพราะเราไม่กล้าปล่อยทั้งสองมือ ปล่อยหมด ทิ้งหมด ได้หมด

แต่อย่าลืมว่า มันไม่ใช่ว่าเราจะทำให้อิสระตั้งแต่ก้าวแรก

มันคือการค้นพบว่าความไม่อิสระตั้งแต่ก้าวแรกคืออะไรบ้าง แล้วมันจะอิสระเอง

การปฏิบัติธรรมไม่ใช่การทำอะไรทั้งนั้น #มันเป็นแค่การค้นพบ
นี่คือประโยคสำคัญอีกอันหนึ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจ

ที่เราเข้าใจผิดกันอย่างมหาศาลในการปฏิบัติธรรม เพราะเราคิดว่ามันคือการทำอะไร
แต่แท้จริง มันตรงกันข้ามเลย
มันคือการค้นพบเฉยๆ

ถ้าเรารู้จักตัวเอง เราจะรู้จักว่าอะไรคือการปฏิบัติธรรม

เพราะมันเป็นการค้นพบ
ไม่ใช่การทำอะไร

Camouflage

04-06-2565