เราต้องรู้จักว่าอะไรจริง

ถ้าเราพูดในทางศาสนาพุทธ แต่ละชีวิตมีบุญกรรมไม่เท่ากัน สติปัญญาไม่เท่ากัน
เพราะฉะนั้น คนแต่ละคนจึงเลือกใช้ชีวิตในความเชื่อที่ตนเองเชื่อ เรามีความเชื่อว่าทำอย่างนี้แล้วเราจะไปถึงความจริงได้ แต่เราไม่มีความเข้าใจพอว่าความเชื่อนั้นไปถึงความจริงไม่ได้
สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นเป็นความเชื่อ เพื่อจะไปถึงความจริง…แค่สิ่งที่เราคิดนั้น มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะหัวใจนั้นคือความเชื่อ
แต่ชีวิตนั้นเป็นของจริง เราจะต้องรู้จักของจริง ว่าของจริงๆ คืออะไร
ความทุกข์มีอยู่จริง ความสุขมีอยู่จริง เรารู้สึกพอใจได้กับความที่เรารู้สึกสุข
เผชิญชีวิตจริงๆ ความจริงไม่ได้อยู่ไกล มันอยู่ที่หัวใจดวงนี้เลย แต่เพราะความเชื่อทำให้เรารู้สึกว่าคำว่าจริงนี้อยู่ไกลเหลือเกิน มันอาจจะเป็นบางสิ่งที่เราคิด เช่น มันคือนิพพาน มันคือความสงบสุข มันคือความไม่มีกิเลส มันคืออะไรก็ตามที่มันดูดีทุกอย่าง เราคิดว่านั่นคือจริง
แต่จริงคือ เดี๋ยวนี้ ขณะนี้เลย
เพราะฉะนั้น ประมาณครึ่งปีที่ผ่านมาผมจะพูดแต่เรื่องว่า เราเข้าใจการปฏิบัติธรรมรึยัง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่เราต้องเข้าใจ ถ้าเรายังไม่เข้าใจ เราจะถูกความเชื่อเล็กๆน้อยๆ หลอกเรา แล้วเราก็ติดอยู่ที่นั่นแหละ
01-01-2565