ชีวิตแห่งการภาวนานั้นเปิดกว้างกว้างอย่างไม่มีขอบเขต พ้นจากทุกความเชื่อ พ้นจากทุกความยึดติด พ้นจากการครอบงำของความคิด
ชีวิตที่อยู่ภายใต้ความเชื่อนั้นอาจจะเป็นชีวิตที่ถูกต้อง แต่ไม่ใช่ชีวิตจริงๆ
#ถูกต้องกับจริงไม่เหมือนกัน
จริงนั้นไม่ข้องเกี่ยวกับทุกรูปแบบของความคิดและความเชื่อ
ถูกต้องนั้นเต็มไปด้วยความคิด ความเชื่อ เหตุผล จารีตประเพณี
คำถามสำคัญจึงเกิดขึ้นว่าเราเคยใช้ชีวิตจริงๆไหม หรือเราใช้ชีวิตตามหนังสือ
ตามคำบอกกล่าวของครูบาอาจารย์
ตามความเชื่อ
และเราพยายามใช้ชีวิตแบบนั้นเพื่อเราจะบรรลุถึงบางอย่างที่ดี ทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความคิดและความเชื่อ หนังสือตำรา ความดีความชั่ว
เราไม่เคยใช้ชีวิตจริงๆ
ชีวิตจริงๆนั้น คนละเรื่องกับสิ่งที่ผมพูดมาเมื่อกี้ทั้งหมด มันคือชีวิตที่เราไม่เคยใช้
เพราะอะไร?
เราไม่ไว้ใจในกระแสธารของชีวิตนี้
เราเชื่อความคิดมากกว่า
ความคิดจะปกป้องทุกอย่างให้เราได้รับสิ่งที่ดี
แต่กระแสธารชีวิตนั้น เราอาจจะเจอสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ไม่ดีก็ได้
#ความไว้ใจนั้นเป็นความยิ่งใหญ่ของการใช้ชีวิต
ความไว้ใจนั้นเป็นความเป็นกลาง
เป็นความไม่สงสัย
เป็นความไม่กลัว
ความไว้ใจนั้นเป็นปัจจุบัน เราจะไม่กังวลถึงอดีต ไม่พะวงถึงอนาคต
ความไว้ใจในกระแสธารของชีวิตหรือความดำรงอยู่นั้น…ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
มันไม่สามารถเปลี่ยนเป็นความไม่ไว้ใจได้
มีแต่ความเชื่อเท่านั้นที่จะเปลี่ยนเป็นความไม่เชื่อ เพราะความเชื่อนั้นอยู่บนพื้นฐานของความคิด
ระหว่างความเชื่อและความไม่เชื่อนั้นคือ
ความสงสัย
เมื่อเราเชื่อ…เราก็สงสัย แล้วเราจะไม่เชื่อ
เมื่อเราไม่เชื่อ…เราจะสงสัย แล้วเราจะเชื่อ
ชีวิตเราอยู่แค่นี้ เราอยู่แค่ในความคิด ชีวิตเรานั้นง่อนแง่นคลอนแคลนเพราะเราอยู่แบบนี้
เราบูชาความคิดเป็นพระเจ้าของเรา เรายึดมั่นในความคิดนั้น
เมื่อเราเชื่อ…เราจะยึด
เมื่อเราสงสัย…เราก็ยึด
เมื่อเราไม่เชื่อ…เราก็ยึดเหมือนกัน
แต่ความไว้ใจในกระแสธารของชีวิต…ไม่อาศัยความคิด อาศัยความไม่คิดต่างหาก
เมื่อเราทุกคนไว้ใจในกระแสธารของชีวิตของเราแต่ละคน…ความจริงใจต่อกันจึงจะเกิดขึ้นได้
เมื่อเราไว้ใจกระแสธารของชีวิต…ความอิสระของจิตใจจึงจะเกิดขึ้นได้
และอีกหลายอย่างจะเกิดขึ้น…ความจริงใจต่อเพื่อนมนุษย์
ความรัก…ความรักที่ไม่ใช่ความหลง
ความเมตตา…มันเกิดขึ้นจากความไว้ใจ
Camouflage
20-03-2564
บางส่วนจากคลิป 248.ความยิ่งใหญ่ของการใช้ชีวิต