การเห็น…ไม่มีทางเลือก

เป็นชีวิตที่หลงเหลือแต่การเห็น
ที่ไม่ใช่ไอเดียของเราจะต้องเป็นคนเห็น
#ชีวิตนี้มีการเห็นอยู่แล้ว

สิ่งที่ถูกเห็น ถูกเรียนรู้นั้นไม่มีน้ำหนักต่อชีวิตนี้
ไม่มีน้ำหนักเพราะว่ามันไม่ใช่เราเห็น

#ไม่มีไอเดียของเราว่าเราได้ใช้ชีวิตที่เป็นการเห็นแล้ว เราได้ใช้ชีวิตที่ถูกแล้ว

เราต้องเข้าถึงตัวจริงของชีวิตว่ามันมีอะไร…มันมีการเห็นอย่างนั้นอยู่แล้ว มันมีการเห็นอย่างนั้นทั้งหมดเลย ไม่มีเราจะต้องพยายามทำอะไรทั้งนั้น

คนที่พรากความสามารถของชีวิตนี้คือ ตัวไอเดียของความเป็นเรา มันพรากความสามารถจริงๆ ของชีวิตนี้ออกไป

ถ้าชีวิตเราเป็น “การเห็น” จริงๆ ที่มันเป็นของมันอย่างนี้ ตอนจะตายมันก็จะเป็นอย่างนี้…นึกออกมั้ย…เราเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้

แต่ถ้าเราเป็น “คนเห็น” ตอนจะตายมันจะมีความรู้สึก เช่น เอ๊ะตอนนี้ต้องเห็นยังไง ตอนนี้ต้องรู้ยังไง ตอนนี้มันเห็นถูกไหม…รู้ถูกรึยัง มันมีสติสมาธิดีพอหรือยัง แล้วตอนนี้ฟุ้งซ่านไปมั้ยเนี่ย มันเป็นกระบวนการที่มี “เราคนนึง” กำลังเห็นหรือกำลังปฏิบัติธรรม ซึ่งมันเป็นความไม่เสถียรอย่างรุนแรงถ้าเราจะตาย

เราลองคิดถึงเวลานี้เลยนะว่าเรากำลังอยู่ในไอเดียของการปฏิบัติธรรมแบบนั้น ถ้าเราอยู่ในไอเดียนั้นเราจะสับสนทุกวัน…เอ วันนี้เราเป็นยังไงนะ…เราดีรึยัง เราน้อยไปมั้ย เรามากไปมั้ย เราเห็นถูกมั้ย เรารู้ถูกรึยัง

ถ้าทุกวันเราเป็นแบบนั้น และอีก 20 ปีข้างหน้าก็ทำแบบนี้ตลอด เราสร้างความเคยชินให้กับตัวเองที่จะเป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้น วันที่เราจะตาย เราจะเป็นแบบนั้น เราจะสับสน สงสัย ฟุ้งซ่าน…ทำแบบไหนจะดีที่สุด…ตอนนี้เราจะตายแล้วนะเนี่ย เดี๋ยวเราไปไม่ดี

แต่การเห็นที่ผมบอกนี้มันไม่มี Choice ไม่มีทางเลือก มันเป็นอย่างนั้นได้อย่างเดียว

นี่คือตัวอย่างหนึ่งของชีวิตที่ไม่ต้องเลือก การเห็นนั้นเลือกไม่ได้

ที่ผมบอกว่าเราต้องเข้าถึง….ผมใช้คำพูดว่าเป็นตำแหน่งหรือจุด…แต่จริงๆมันไม่ใช่นะ เราต้องเข้าถึงตำแหน่งที่สิ่งๆนั้นที่ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงได้ มันไม่เคยเปลี่ยน มันไม่มีคุณภาพในระดับที่ดีกว่านี้หรือแย่กว่านี้ มันเป็นได้แค่อย่างนี้

Camouflage
11-12-2021