ชีวิตที่จมกับอดีต ไม่สามารถจะเป็นชีวิตได้
ชีวิตที่จมกับอดีต ก็เหมือนผีดิบ เหมือนซอมบี้ ที่เดินได้แต่ไม่มีชีวิต
ชีวิตที่จ่อมจมอยู่กับอดีตอันปวดร้าว อยู่กับความแค้น ความทุกข์ ความต้องการเอาชนะ ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นชีวิต
ชีวิตแบบนั้น ไม่ใช่ชีวิตของมนุษย์
เพราะ เป็นชีวิตที่เป็นทาสของกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง เฉกเช่นเดียวกับสัตว์ต่างๆทั่วไป
.
.
.
การตื่นออกมาจากอดีต อนาคต และอยู่กับปัจจุบัน จะทำให้เราเริ่มรู้จักชีวิตที่แท้จริง
ชีวิตที่แท้จริง คือชีวิตที่ไม่เป็นทาสของกิเลสตัวเอง
ดังนั้น จงตื่นออกมา เพื่อจะได้พบอิสระสูงสุด
นั่นคือ #ความเป็นอิสระจากชีวิตอีกทีหนึ่ง ไม่ใช่ แค่การมีชีวิตที่อิสระ
.
.
.
เมื่อเราฝึกที่จะให้อภัย รู้จักยอมรับทุกสิ่งตามเป็นจริง แล้วเราจะได้รู้จักความเบาสบายของชีวิตในเบื้องต้น
เราจะได้พบความสุขง่ายๆจากจิตใจที่เปิดกว้าง
เพราะ จิตใจเราได้ตื่นขึ้นแล้ว
ผลของจิตใจที่ตื่นขึ้นแล้ว คือการที่เราได้รู้จักสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน
คือความเป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
เมื่อเรา“รู้” “ตื่น” เราจะได้พบ“ความเบิกบาน” ที่รอวันเปิดเผยตัวออกมาจากใจของเราเอง
ความเบิกบานนี้มีอยู่แล้ว แต่เราไม่เคยให้โอกาสมันได้เผยตัวออกมา
เพราะเรามัวแต่วิ่งไล่หาความสุขบนพื้นฐานของกิเลสตัณหา
กิเลส ตัณหา และความดิ้นรนนั้นเอง ได้ปิดบังความเบิกบานที่แท้จริงไว้อย่างมิดชิด
ดังนั้น จงกลับมา รู้จักความเป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
เมื่อเราได้พบ เราจะรู้จัก ความประเสริฐที่แท้จริง
และได้ตระหนักชัดว่า ชีวิตที่ผ่านมา เราเอง ไม่เคยเข้าใจ และเข้าถึง ความเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐเลย
Camouflage